นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการ จ.ยโสธร เตรียมประกาศให้ จ.ยโสธร เป็นพื้นที่วิกฤตน้ำ ห้ามนำน้ำไปใช้ในการเกษตรโดยเด็ดขาด หลังระดับน้ำในแม่น้ำชีลดลงอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าปริมาณน้ำที่เหลืออยู่จะสามารถใช้ได้เพียง 20 วัน โดยระดับน้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่าน จ.ยโสธรแห้งขอด จนเกิดสันทรายกลางน้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากฝนทิ้งช่วง และการสูบน้ำเพื่อปลูกข้าวนาปรังของเกษตรกร ทำให้สถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดเข้าสู่ขั้นวิกฤต ขณะที่บริเวณป่ายโสธร-พนมไพร ปริมาณน้ำลดลงวันละประมาณ 5 เซนติเมตร
ด้านอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 19 แห่งของ จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของ 3 อำเภอ คือ อ.เมือง กระสัง และห้วยราช ขณะนี้ปริมาณน้ำเหลือน้อยกว่าร้อยละ 50
ชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ จึงเสนอให้การประปา จัดงบประมาณเพื่อสูบน้ำเติมในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง และรณรงค์งดปลูกข้าวนาปรัง
เช่นเดียวกับ จ.ชัยนาท สำนักชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท แจ้งเตือนให้เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานงดทำนาปรัง เพื่อป้องกันผลผลิตเสียหาย หลังปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือเพียงร้อยละ 50
ด้านอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 19 แห่งของ จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของ 3 อำเภอ คือ อ.เมือง กระสัง และห้วยราช ขณะนี้ปริมาณน้ำเหลือน้อยกว่าร้อยละ 50
ชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ จึงเสนอให้การประปา จัดงบประมาณเพื่อสูบน้ำเติมในอ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง และรณรงค์งดปลูกข้าวนาปรัง
เช่นเดียวกับ จ.ชัยนาท สำนักชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท แจ้งเตือนให้เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานงดทำนาปรัง เพื่อป้องกันผลผลิตเสียหาย หลังปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำกักเก็บเหลือเพียงร้อยละ 50
