นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า การที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยแข็งค่าขึ้นวันละ 20 สตางค์ ไม่ส่งผลดี เพราะไม่สะท้อนความเศรษฐกิจที่แท้จริง เห็นได้ว่า เงินทุนต่างชาติที่เข้ามามีลักษณะเก็งกำไรผ่านตลาดตราสารหนี้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจ ต้องดูแลไม่ให้เงินบาทแข็งค่ารวดเร็วจนกระทบต่อการส่งออก
อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่เข้าแทรกแซงจนฝืนธรรมชาติของกลไกลตลาด แต่ต้องพยายามรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท โดยกำกับดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียว และไม่ให้เกิดความผันผวนมากจนเกินไป เพื่อให้เอกชนปรับตัวได้
ขณะเดียวกันการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลดีต่อการนำเข้าพลังงาน และอุปกรณ์เครื่องจักร ทำให้มีต้นทุนต่ำลง โดยเฉพาะรัฐบาลกำลังจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ยังให้อัตราเงินเฟ้อต่ำลง ส่วนระยะยาวมองว่า ไทยจะไม่เกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างถาวร ซึ่งจะช่วยลดการกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าได้
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในเช้าวันนี้ ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดตลาดที่ 29.72-29.74 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากเย็นวานนี้ประมาณ 12 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่เข้าแทรกแซงจนฝืนธรรมชาติของกลไกลตลาด แต่ต้องพยายามรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท โดยกำกับดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียว และไม่ให้เกิดความผันผวนมากจนเกินไป เพื่อให้เอกชนปรับตัวได้
ขณะเดียวกันการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลดีต่อการนำเข้าพลังงาน และอุปกรณ์เครื่องจักร ทำให้มีต้นทุนต่ำลง โดยเฉพาะรัฐบาลกำลังจะมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ยังให้อัตราเงินเฟ้อต่ำลง ส่วนระยะยาวมองว่า ไทยจะไม่เกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างถาวร ซึ่งจะช่วยลดการกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าได้
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในเช้าวันนี้ ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดตลาดที่ 29.72-29.74 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากเย็นวานนี้ประมาณ 12 สตางค์ต่อดอลลาร์สหรัฐ