พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงกรณีที่นางพิศอำไพ สมความคิด ภรรยานายวีระ สมความคิด พร้อมด้วยนายวิชัย พิพัฒนาไพบูรณ์ พี่ชาย น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ได้ยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือบุคคลทั้ง 2 ว่า กรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้พิจารณาและมีมติอนุมัติเงินจากกองทุนยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือค่าทนายที่ญาติได้ใช้จ่ายไปแล้วตามจริง เป็นเงินดอลล่าร์จำนวน 3,000 ดอลลาร์ เนื่องจากเป็นการว่าจ้างทนายในตางประเทศ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 หมื่นบาท
ส่วนที่ญาติยื่นขอให้ช่วยเหลือค่าเดินทาง และค่ารักษาพยาบาลนั้น ไม่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือ เนื่องจากตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายแก่จำเลยในคดีอาญา จะต้องเป็นบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่กรณีของนายวีระและ น.ส.ราตรี ถูกศาลกัมพูชาพิพากษาลงโทษจำคุกเด็ดขาดไปแล้ว อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยังกล่าวว่า สำหรับการช่วย เหลือเรื่องการขอโอนตัว น.ส.ราตรี กลับมาคุมขังต่อที่เรือนจำประเทศไทยเพราะจะครบเงื่อนไข คือได้รับโทษในประเทศนั้นไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษที่ได้รับ ล่าสุดทราบว่าจะได้พระราชทานอภัยโทษแล้ว
ส่วนที่ญาติยื่นขอให้ช่วยเหลือค่าเดินทาง และค่ารักษาพยาบาลนั้น ไม่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือ เนื่องจากตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายแก่จำเลยในคดีอาญา จะต้องเป็นบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่กรณีของนายวีระและ น.ส.ราตรี ถูกศาลกัมพูชาพิพากษาลงโทษจำคุกเด็ดขาดไปแล้ว อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยังกล่าวว่า สำหรับการช่วย เหลือเรื่องการขอโอนตัว น.ส.ราตรี กลับมาคุมขังต่อที่เรือนจำประเทศไทยเพราะจะครบเงื่อนไข คือได้รับโทษในประเทศนั้นไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษที่ได้รับ ล่าสุดทราบว่าจะได้พระราชทานอภัยโทษแล้ว