เกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศเมื่อวันพุธ(19) หลัง พัค กึน-ฮเย บุตรสาวอดีตผู้นำเผด็จการ ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคอนุรักษนิยม เฉือนชนะ มุน แจอิน ผู้สมัครของฝ่ายซ้ายอย่างฉิวเฉียด เจ้าตัวประกาศลั่นพร้อมทำตามคำสัญญาที่รับปากไว้ท่ามกลางความท้าทายต่างๆนานา
ในฐานะผู้นำชาติเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของเอเชีย พัค จะต้องเจอกับความท้าทายหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นรับมือกับเกาหลีเหนือชาติผู้เป็นปรปักษ์ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและภาระค่าใช้จ่ายทางสังคมที่สูงขึ้นเรื่อยๆของหนึ่งในประเทศที่สังคมชราภาพขยายตัวเร็วที่สุดในโลก
ข้อมูลของคณะกรรมการเลือกตั้งระบุว่าหลังนับคะแนนไปได้ราวๆร้อยละ 85 พบว่า พัค มีคะแนนเหนือ มุน แจอิน ผู้สมัครของฝ่ายซ้ายและทนายความนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน อยู่ร้อยละ51.6 ต่อ 48 โดยถึงแม้อากาศเย็นยะเยือกอุณหภูมิติดลบ 10 องศาเซลเซียส แต่ชาวเกาหลีใต้พากันไปลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้กันอย่างคึกคัก โดยมีจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์ 75% เปรียบเทียบกับ 63% ในการเลือกตั้งปี 2007
ศึกเลือกครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการต่อสู้เรื่องประเด็นเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่ผู้สมัครทั้งสองคนก็เสนอนโยบายที่คล้ายๆกัน เนื่องด้วยต้องการดึงคะแนนของคนสายกลางจากฐานเสียงเดิมของแต่ละฝ่าย
พัค หาเสียงด้วยการส่งสารผลักดันนโยบายเศรษฐกิจประชาธิปไตย ศัพท์สั้นๆที่อ้างถึงการลดความแตกต่างทางสัมคมอันเป็นผลจากการเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และให้สัญญาว่าจะสร้างงานใหม่ๆและเพิ่มการใช้จ่ายทางสังคม
"ฉันจะเป็นประธานาธิบดีที่จะปฏิบัติตามทุกคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน" พัคบอกกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่ต่างโบกธงและส่งเสียงเชียร์ ณ งานเฉลิมฉลองชัยชนะกลางใจในกรุงโซล อย่างไรก็ตามเธอพูดอย่างระมัดระวังมากกว่านายมุน เกี่ยวกับความจำเป็นต้องควบคุมการแผ่ขยายอำนาจของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ทรงอิทธิพลทางการค้าและการลงทุน(chaebol) ซึ่งครอบงำเศรษฐกิจของประเทศ
ในฐานะผู้นำชาติเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของเอเชีย พัค จะต้องเจอกับความท้าทายหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นรับมือกับเกาหลีเหนือชาติผู้เป็นปรปักษ์ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและภาระค่าใช้จ่ายทางสังคมที่สูงขึ้นเรื่อยๆของหนึ่งในประเทศที่สังคมชราภาพขยายตัวเร็วที่สุดในโลก
ข้อมูลของคณะกรรมการเลือกตั้งระบุว่าหลังนับคะแนนไปได้ราวๆร้อยละ 85 พบว่า พัค มีคะแนนเหนือ มุน แจอิน ผู้สมัครของฝ่ายซ้ายและทนายความนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน อยู่ร้อยละ51.6 ต่อ 48 โดยถึงแม้อากาศเย็นยะเยือกอุณหภูมิติดลบ 10 องศาเซลเซียส แต่ชาวเกาหลีใต้พากันไปลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้กันอย่างคึกคัก โดยมีจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์ 75% เปรียบเทียบกับ 63% ในการเลือกตั้งปี 2007
ศึกเลือกครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการต่อสู้เรื่องประเด็นเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่ผู้สมัครทั้งสองคนก็เสนอนโยบายที่คล้ายๆกัน เนื่องด้วยต้องการดึงคะแนนของคนสายกลางจากฐานเสียงเดิมของแต่ละฝ่าย
พัค หาเสียงด้วยการส่งสารผลักดันนโยบายเศรษฐกิจประชาธิปไตย ศัพท์สั้นๆที่อ้างถึงการลดความแตกต่างทางสัมคมอันเป็นผลจากการเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และให้สัญญาว่าจะสร้างงานใหม่ๆและเพิ่มการใช้จ่ายทางสังคม
"ฉันจะเป็นประธานาธิบดีที่จะปฏิบัติตามทุกคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน" พัคบอกกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่ต่างโบกธงและส่งเสียงเชียร์ ณ งานเฉลิมฉลองชัยชนะกลางใจในกรุงโซล อย่างไรก็ตามเธอพูดอย่างระมัดระวังมากกว่านายมุน เกี่ยวกับความจำเป็นต้องควบคุมการแผ่ขยายอำนาจของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ทรงอิทธิพลทางการค้าและการลงทุน(chaebol) ซึ่งครอบงำเศรษฐกิจของประเทศ
