น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญโดยการทำประชามติ ว่า ตนทราบมาว่ารัฐบาลกลัวแพ้ จึงสั่งการให้กลไกราชการในกระทรวงต่างๆ ออกไปรณรงค์ชักชวนประชาชนให้มาใช้สิทธิในการออกเสียงประชามติ อีกทั้งมีข่าวว่าเริ่มมีการแจกเงินกันแล้วในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง โดยอ้างเรื่องการสั่งการช่วยรณรงค์ให้ผ่านขั้นตอนนี้ไปเท่านั้น ถือว่าทำไม่ถูกต้อง ไม่เห็นต้องใช้กลไกของรัฐ หากรัฐบาลมีความกล้าหาญพอจริงไม่ต้องมาใช้กลไกรัฐชักชวนทำประชามติ หน้าที่รัฐบาลคือ ให้ความรู้ประชาชนอย่างเต็มที่ก่อนจึงมาถึงขั้นตอนประชามติ
น.พ.ตุลย์ ยังกล่าวเตือนว่า อย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เพราะจะทำประชามติหรือไม่ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่อยู่ที่เมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วเพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ไม่มีใครค้าน ไม่ใช่ทำเพื่อใคร ซึ่งรู้ว่าทำเพื่ออะไร เวลานี้ก็ยังไม่เห็นว่า พรรคเพื่อไทยที่บอกว่า ต้องการแก้ไขสิ่งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ก็ยังไม่บอกว่าจะแก้อะไรประเด็นไหนบ้าง ซึ่งทุกอย่างควรทำโดยเปิดเผยก่อน ว่าแก้อย่างไหนจึงค่อยไปใช้วิธีการประชามติ แต่นี่มาประชามติก่อนเพราะกลัวแพ้
ทั้งนี้ รัฐบาลมีแต่ยืนยันว่า แก้รัฐธรรมนูญไม่ใช้เรื่องตัวบุคคล และไม่เกี่ยวกับพ.ร.บ. ปรองดอง ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะแก้อะไร หากต้องการตัดความกังขาของสังคม ควรลงเป็นสัตยาบันไว้เลยว่าไม่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีผลย้อนหลังไม่ได้ เอาให้ชัดๆ เลยว่า ต้องนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาขึ้นศาลทั้งหมด จะยอมรับเงื่อนไขนี้ได้หรือไม่ และตกลงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรัฐบาล เรียกร้องอะไร ตรงไหนที่ไม่ใช้ประชาธิปไตย พูดมาชัดๆ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดจริง กฎหมายมีอยู่ กลับไปบิดเบือนการเพื่อพยายามใช้อำนาจรัฐ ให้เป็นไปตามที่ต้องการ หน้าที่เราไม่เห็นด้วยก็จะออกไปขัดขวาง เรามีกำลังขบวนการประชาชน
น.พ.ตุลย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำลังเห่อเหิม ทำทุกอย่างให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับบ้าน เพราะนานแล้วก็ไม่ได้กลับเสียที ในพรรคเพื่อไทยเองจริงๆ แล้วไม่อยากให้กลับ เพราะถ้ากลับมาเมื่อไรพวกเขาก็หมดอำนาจเมื่อนั้น แต่ปีหน้าตั้งเป้ามาแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือ เตรียมการสกัดกั้นขบวนการประชาชนโดยรัฐตำรวจเต็มที่ เรียกได้ว่าม็อบองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) โดนทดลองยาแรงโดสแรก ซึ่งปีหน้าบ้านเมืองวุ่นวายมากกว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดเคยขึ้นในประวัติศาสตร์การต่อสู้ภาคประชาชน เพราะ พ.ต.ท. ทักษิณ อยากกลับบ้านมามีอำนาจ
น.พ.ตุลย์ ยังกล่าวเตือนว่า อย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เพราะจะทำประชามติหรือไม่ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่อยู่ที่เมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วเพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ไม่มีใครค้าน ไม่ใช่ทำเพื่อใคร ซึ่งรู้ว่าทำเพื่ออะไร เวลานี้ก็ยังไม่เห็นว่า พรรคเพื่อไทยที่บอกว่า ต้องการแก้ไขสิ่งที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ก็ยังไม่บอกว่าจะแก้อะไรประเด็นไหนบ้าง ซึ่งทุกอย่างควรทำโดยเปิดเผยก่อน ว่าแก้อย่างไหนจึงค่อยไปใช้วิธีการประชามติ แต่นี่มาประชามติก่อนเพราะกลัวแพ้
ทั้งนี้ รัฐบาลมีแต่ยืนยันว่า แก้รัฐธรรมนูญไม่ใช้เรื่องตัวบุคคล และไม่เกี่ยวกับพ.ร.บ. ปรองดอง ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะแก้อะไร หากต้องการตัดความกังขาของสังคม ควรลงเป็นสัตยาบันไว้เลยว่าไม่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีผลย้อนหลังไม่ได้ เอาให้ชัดๆ เลยว่า ต้องนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาขึ้นศาลทั้งหมด จะยอมรับเงื่อนไขนี้ได้หรือไม่ และตกลงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรัฐบาล เรียกร้องอะไร ตรงไหนที่ไม่ใช้ประชาธิปไตย พูดมาชัดๆ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดจริง กฎหมายมีอยู่ กลับไปบิดเบือนการเพื่อพยายามใช้อำนาจรัฐ ให้เป็นไปตามที่ต้องการ หน้าที่เราไม่เห็นด้วยก็จะออกไปขัดขวาง เรามีกำลังขบวนการประชาชน
น.พ.ตุลย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำลังเห่อเหิม ทำทุกอย่างให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กลับบ้าน เพราะนานแล้วก็ไม่ได้กลับเสียที ในพรรคเพื่อไทยเองจริงๆ แล้วไม่อยากให้กลับ เพราะถ้ากลับมาเมื่อไรพวกเขาก็หมดอำนาจเมื่อนั้น แต่ปีหน้าตั้งเป้ามาแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือ เตรียมการสกัดกั้นขบวนการประชาชนโดยรัฐตำรวจเต็มที่ เรียกได้ว่าม็อบองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) โดนทดลองยาแรงโดสแรก ซึ่งปีหน้าบ้านเมืองวุ่นวายมากกว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดเคยขึ้นในประวัติศาสตร์การต่อสู้ภาคประชาชน เพราะ พ.ต.ท. ทักษิณ อยากกลับบ้านมามีอำนาจ