หลังปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 18 แห่งของ จ.ศรีสะเกษลดลง ทำให้ชลประทานจังหวัด ต้องส่งเสริมให้ท้องถิ่น สร้างฝายชะลอน้ำชั่วคราว เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในชุมชน ซึ่งสามารถสร้างฝายชะลอน้ำแล้ว 12 ฝาย จากที่ตั้งเป้าหมายทั้งหมด 19 ฝาย
เช่นเดียวกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำธรรมชาติใน จ.บุรีรัมย์ ที่ลดลงต่อเนื่อง และจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว 8 อำเภอ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจ และซ่อมแซมประปาบาดาลที่ชำรุด พร้อมแจกจ่ายน้ำให้ผู้ประสบภัยกว่า 12,000 ครัวเรือน ในพื้นที่ 6 อำเภอ
ไม่ต่างจากจังหวัดในภาคเหนือ ที่สถานการณ์ภัยแล้งยังขยายวงกว้าง โดยเฉพาะ จ.พิจิตร เกษตรกรใน อ.วังทรายพูน ต้องเปลี่ยนที่นามาปลูกแตงโม ซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อยแทน หลังจากพื้นที่ประสบภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงทำให้มีน้ำไม่พอสำหรับทำนา ทั้งนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเฉลี่ยไร่ละ 20,000 บาท
เช่นเดียวกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำธรรมชาติใน จ.บุรีรัมย์ ที่ลดลงต่อเนื่อง และจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว 8 อำเภอ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจ และซ่อมแซมประปาบาดาลที่ชำรุด พร้อมแจกจ่ายน้ำให้ผู้ประสบภัยกว่า 12,000 ครัวเรือน ในพื้นที่ 6 อำเภอ
ไม่ต่างจากจังหวัดในภาคเหนือ ที่สถานการณ์ภัยแล้งยังขยายวงกว้าง โดยเฉพาะ จ.พิจิตร เกษตรกรใน อ.วังทรายพูน ต้องเปลี่ยนที่นามาปลูกแตงโม ซึ่งเป็นพืชใช้น้ำน้อยแทน หลังจากพื้นที่ประสบภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงทำให้มีน้ำไม่พอสำหรับทำนา ทั้งนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเฉลี่ยไร่ละ 20,000 บาท
