นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวถึงผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 2555 ขององค์กร เพื่อความโปร่งใสของประเทศไทยพบว่า ประเทศไทยได้ 37 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน อยู่อันดับ 88 ว่า แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีภาพพจน์ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชัน และในฐานะองค์กรดูแลเกี่ยวกับคอร์รัปชันเห็นว่า การมีข้อมูลองค์กรเหล่านี้มาเปิดเผย จะเป็นผลดีต่อการติดตามดูแลปัญหาคอร์รัปชันด้านต่างๆ ถือเป็นประโยชน์ต่อคนไทยทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายประมนต์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาไม่มีการพูดถึง หรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชัน เมื่อองค์กรเหล่านี้นำประเด็นคอร์รัปชันมาเปิดเผย ทำให้คนไทยตื่นตัวหันมาใส่ใจปัญหาคอร์รัปชันรูปแบบต่างๆ ทั้งทางตรงและทางลัด ดังนั้นทางภาคีฯ จะนำผลการสำรวจดังกล่าวมาพิจารณาว่า สามารถจะนำไปต่อยอดให้ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติได้อย่างไรบ้าง
นายประมนต์ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายปี 2556 ทางภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน จะมีความเข้มข้นในการดูแลปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มองค์กรต่างๆ เข้าร่วมมากขึ้น จึงเชื่อว่าภาพรวมเห็นว่าการที่มีองค์กรต่างๆ ออกมาเปิดเผย หรือจัดอันดับประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชัน แสดงให้เห็นว่าหลายประเทศยังจับตามองประเทศไทย ดังนั้น ภาคีฯ และคนไทยทั้งประเทศจะต้องดูแล และออกมาต่อต้านปัญหาคอร์รัปชันรูปแบบต่างๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายประมนต์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาไม่มีการพูดถึง หรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชัน เมื่อองค์กรเหล่านี้นำประเด็นคอร์รัปชันมาเปิดเผย ทำให้คนไทยตื่นตัวหันมาใส่ใจปัญหาคอร์รัปชันรูปแบบต่างๆ ทั้งทางตรงและทางลัด ดังนั้นทางภาคีฯ จะนำผลการสำรวจดังกล่าวมาพิจารณาว่า สามารถจะนำไปต่อยอดให้ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติได้อย่างไรบ้าง
นายประมนต์ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายปี 2556 ทางภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน จะมีความเข้มข้นในการดูแลปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มองค์กรต่างๆ เข้าร่วมมากขึ้น จึงเชื่อว่าภาพรวมเห็นว่าการที่มีองค์กรต่างๆ ออกมาเปิดเผย หรือจัดอันดับประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาคอร์รัปชัน แสดงให้เห็นว่าหลายประเทศยังจับตามองประเทศไทย ดังนั้น ภาคีฯ และคนไทยทั้งประเทศจะต้องดูแล และออกมาต่อต้านปัญหาคอร์รัปชันรูปแบบต่างๆ ต่อไป
