เวลา 10.30 น. (5 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้วพนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด
ครั้นสุดเสียงประโคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้ลุอุดมมงคลสมัย เฉลิมพระชนมพรรษาอีกวาระหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติปราโมทย์พ้นประมาณ ที่ได้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ร่วมกับบรรดาข้าราชการและประชาชนจากทุกถิ่นฐานทั่วราชอาณาจักร ซึ่งพร้อมใจกันมาชุมนุมในมหาสมาคมอันใหญ่ยิ่งนี้ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงเป็นผู้มีโชควาสนาที่เกิดมาในแผ่นดินไทย ภายใต้พระบุญญาบารมี จึงได้รับพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุข ความเจริญ และมีเกียรติยศ เป็นที่เชิดชูตามฐานานุศักดิ์ อีกทั้งได้มีโอกาสเฝ้าสังเกต ศึกษาพระราชจริยาโดยประจักษ์แก่ตา แก่ใจ อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่น ด้วยเห็นแท้แน่แก่ใจว่า พระราชกิจน้อยใหญ่ที่ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติ บำเพ็ญ ด้วยพระวิริยะ และพระขันติธรรมอย่างยิ่งยวดนั้น ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ คือความผาสุก ร่มเย็น ของอาณาประชาราษฎร์ และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติทั้งสิ้น
พระบารมีซึ่งแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมอยู่ทุกเช้าค่ำนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงต่างสำนึกรู้อยู่ทุกเวลาด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิต
ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ จึงมีสมานฉันท์พร้อมใจกันถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะตั้งตัว ตั้งใจมั่น อยู่ในธรรมอันสุจริต และในความจงรักภักดี จะมุ่งมั่นประพฤติตัว ปฏิบัติงาน ตามภาวะ ฐานะ และหน้าที่ของตน ให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สืบสานพระราชปณิธานแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ กับทั้งขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพ แห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย มีพระราชหฤทัยผ่องแผ้ว เบิกบาน ปลอดพ้นจากเรื่องรบกวน กังวล ทรงพระเจริญพระชนม์สุขสิริสวัสดิ์ เป็นร่มฉัตร ร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงข้าพระพุทธเจ้า และประชาชนชาวไทย ยั่งยืนไปตลอดกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จขึ้นบนพระที่นั่งอนันตสมาคม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ในมหามงคลสมัยที่วันเฉลิมพระชนมพรรษาเวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่มาชุมนุมพร้อมกันในมหาสมาคมแห่งนี้ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ด้วยน้ำใจที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี
ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ภายใต้ร่มพระบารมีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ประชาชนชาวไทยทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนประจักษ์ชัดแจ้งว่า ความสุข ความสงบร่มเย็น และความเจริญก้าวหน้าสารพัดในประเทศนี้ เป็นผลมาจากพระราชวิริยะอุตสาหะ และพระมหากรุณาธิคุณในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญมาต่อเนื่องยาวนานโดยแท้
พระเดชพระคุณที่ทรงบริวารรักษา ตลอดจนพระบารมีที่ปกแผ่คุ้มเกล้าเหล่าปวงประชา เกินกว่าถ้อยคำที่ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะพรรณาได้ครบถ้วน
ณ มหามงคลโอกาสแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต อัญเชิญอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย พระเดชานุภาพของสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีต กับทั้งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล จงเป็นผลดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญเกษมสุข มีพระกมลปรารถนาสิ่งใดจงสัมฤทธิ์ ทรงสถิตเป็นธงชัยของชาติและประชาชน ตลอดกาลนาน ดั่งใจปรารถนาของข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
จากนั้น นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในอภิลักขิตสมัย อันเป็นมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ข้าพระพุทธเจ้า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในนามของสมาชิกรัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนปวงชนชาวไทย มีความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทย หาที่สุดมิได้
ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ทรงชี้นำแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศ ประหนึ่งดวงประทีปส่องทางแก่ทวยนิกรชน เสมือนสายฝนที่ไหลหลั่ง ให้ความฉ่ำเย็นแก่พื้นปฐพี เสมอแสงสุรีย์ที่ให้ความสว่างแก่พลังชีวิต ประดุจแสงจันทร์เพ็ญโสภิตแห่งความร่มเย็นเป็นสุข ทรงขจัดเปลื้องสรรพทุกข์ให้พินาศไป นับเป็นบุญอันประเสริฐสุดของพสกนิกรชาวไทยโดยแท้
ในโอกาสมหามงคลสมัย วันเฉลิมพระชนมพรรษา แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทวาระนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล พระบรมเดชานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ และพระบุญญาบารมีที่ได้ทรงบำเพ็ญมา โปรดดลบันดาลอภิบาล รักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระเจริญ ทรงพระเกษมสำราญ พระราชหฤทัยชื่นบาน ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลทั่วทุกสารทิศ สถิตเสถียรในมไหสวรรย์ราชสมบัติ ทรงเป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ทองของปวงข้าพระพุทธเจ้า และพสกนิกรชาวไทย ตราบจิรัฐิติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ในนามของข้าราชการฝ่ายตุลาการที่ปฏิบัติราชการสนองพระเดชพระคุณ ภายใต้เบื้องพระยุคลบาท ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลพระกรุณา แสดงความจงรักภักดี ปีติโสมนัส เนื่องในวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ทรงเป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย และทรงสถิตอยู่ในดวงใจของประชาราษฎร์ตลอดมา
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นพระประมุขของประเทศ ผู้ทรงดำรงอยู่ในพระราชนิติแห่งธรรมิกราช เพราะเพียบพร้อมด้วยทศพิธราชธรรม จักรวรรดิวัตร และสังคหวัตถุ อย่างครบถ้วน
ทรงอุทิศพระองค์ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย และความเจริญก้าวหน้าของประเทศ
ในด้านการศาล ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงรอบรู้ในธรรมศาสตร์และนิติศาสตร์อย่างประเสริฐ ได้พระราชทานแนวทางการปฏิบัติหน้าที่แก่นักกฎหมาย และตุลาการ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมและประโยชน์ของประเทศชาติ โดยให้พินิจพิเคราะห์ปัญหาและสิ่งต่างๆ ด้วยคุณธรรม ความรอบรู้ ตลอดจนความเข้าใจในวิถีชีวิตของปวงชนตามกาลสมัย อันจะนำพาประเทศไปสู่ความสมบูรณ์และความเป็นปึกแผ่น มั่นคงสถาวร
ข้าพระพุทธเจ้า บรรดาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ผู้พิจารณาพิพากษาอรรถคดีในพระปรมาภิไธย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น หาที่สุดมิได้ ขอตั้งสัตย์ปฏิญาณด้วยดวงจิตอันมั่นคง เปี่ยมด้วยความภักดี ว่า จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่สนองพระเดชพระคุณ ในอันที่จะประสิทธิประสาทความยุติธรรมแก่ปวงชนด้วยความเที่ยงธรรมและสุจริตธรรม อย่างเต็มกำลังสามารถ
ในสมัยอันเป็นมงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยอันประเสริฐ และพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ได้โปรดอภิบาลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระสุขภาพ พลานามัย มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ เพียบพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย สถิตสถาพรในรัตนราชไอศูรย์ ยั่งยืนตลอดกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณา กล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทหารรักษาพระองค์ และทหารทุกหน่วย ทุกเหล่าทัพ ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ถวายสัตย์ปฏิญาณ
ต่อไปนี้ ให้ทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณตามข้าพเจ้า
ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ว่า ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดีและถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจักปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ
"คำอวยพร และคำปฏิญาณ สัญญา ที่ทุกท่านได้กล่าวนั้น เป็นที่ประทับใจมาก ขอขอบใจท่านทั้งหลาย ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคนที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปรารถนาดี และไมตรีจิต
ความปรารถนาดี และความพร้อมเพรียงกันของทุกท่าน อย่างที่ได้เห็นในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตา ปรารถนาดีของท่านต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะทำให้ความพร้อมเพรียงจะเกิดขึ้น มีขึ้นทั้งในหมู่คณะ และในชาติบ้านเมือง
แต่ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันนี้อยู่ในจิตใจ ก็จะมีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และธำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านและชาติไทย ให้มีแต่ความผาสุกร่มเย็น ยิ่งยืนไป"
จบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้วพนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด
ครั้นสุดเสียงประโคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้ลุอุดมมงคลสมัย เฉลิมพระชนมพรรษาอีกวาระหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติปราโมทย์พ้นประมาณ ที่ได้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ร่วมกับบรรดาข้าราชการและประชาชนจากทุกถิ่นฐานทั่วราชอาณาจักร ซึ่งพร้อมใจกันมาชุมนุมในมหาสมาคมอันใหญ่ยิ่งนี้ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงเป็นผู้มีโชควาสนาที่เกิดมาในแผ่นดินไทย ภายใต้พระบุญญาบารมี จึงได้รับพระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุข ความเจริญ และมีเกียรติยศ เป็นที่เชิดชูตามฐานานุศักดิ์ อีกทั้งได้มีโอกาสเฝ้าสังเกต ศึกษาพระราชจริยาโดยประจักษ์แก่ตา แก่ใจ อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่น ด้วยเห็นแท้แน่แก่ใจว่า พระราชกิจน้อยใหญ่ที่ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติ บำเพ็ญ ด้วยพระวิริยะ และพระขันติธรรมอย่างยิ่งยวดนั้น ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ คือความผาสุก ร่มเย็น ของอาณาประชาราษฎร์ และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติทั้งสิ้น
พระบารมีซึ่งแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมอยู่ทุกเช้าค่ำนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงต่างสำนึกรู้อยู่ทุกเวลาด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิต
ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ จึงมีสมานฉันท์พร้อมใจกันถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะตั้งตัว ตั้งใจมั่น อยู่ในธรรมอันสุจริต และในความจงรักภักดี จะมุ่งมั่นประพฤติตัว ปฏิบัติงาน ตามภาวะ ฐานะ และหน้าที่ของตน ให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สืบสานพระราชปณิธานแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ กับทั้งขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพ แห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย มีพระราชหฤทัยผ่องแผ้ว เบิกบาน ปลอดพ้นจากเรื่องรบกวน กังวล ทรงพระเจริญพระชนม์สุขสิริสวัสดิ์ เป็นร่มฉัตร ร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงข้าพระพุทธเจ้า และประชาชนชาวไทย ยั่งยืนไปตลอดกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จขึ้นบนพระที่นั่งอนันตสมาคม
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ในมหามงคลสมัยที่วันเฉลิมพระชนมพรรษาเวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่มาชุมนุมพร้อมกันในมหาสมาคมแห่งนี้ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ด้วยน้ำใจที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี
ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ภายใต้ร่มพระบารมีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ประชาชนชาวไทยทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนประจักษ์ชัดแจ้งว่า ความสุข ความสงบร่มเย็น และความเจริญก้าวหน้าสารพัดในประเทศนี้ เป็นผลมาจากพระราชวิริยะอุตสาหะ และพระมหากรุณาธิคุณในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญมาต่อเนื่องยาวนานโดยแท้
พระเดชพระคุณที่ทรงบริวารรักษา ตลอดจนพระบารมีที่ปกแผ่คุ้มเกล้าเหล่าปวงประชา เกินกว่าถ้อยคำที่ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะพรรณาได้ครบถ้วน
ณ มหามงคลโอกาสแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต อัญเชิญอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย พระเดชานุภาพของสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีต กับทั้งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล จงเป็นผลดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญเกษมสุข มีพระกมลปรารถนาสิ่งใดจงสัมฤทธิ์ ทรงสถิตเป็นธงชัยของชาติและประชาชน ตลอดกาลนาน ดั่งใจปรารถนาของข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
จากนั้น นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในอภิลักขิตสมัย อันเป็นมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ข้าพระพุทธเจ้า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในนามของสมาชิกรัฐสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนปวงชนชาวไทย มีความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทย หาที่สุดมิได้
ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ทรงชี้นำแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศ ประหนึ่งดวงประทีปส่องทางแก่ทวยนิกรชน เสมือนสายฝนที่ไหลหลั่ง ให้ความฉ่ำเย็นแก่พื้นปฐพี เสมอแสงสุรีย์ที่ให้ความสว่างแก่พลังชีวิต ประดุจแสงจันทร์เพ็ญโสภิตแห่งความร่มเย็นเป็นสุข ทรงขจัดเปลื้องสรรพทุกข์ให้พินาศไป นับเป็นบุญอันประเสริฐสุดของพสกนิกรชาวไทยโดยแท้
ในโอกาสมหามงคลสมัย วันเฉลิมพระชนมพรรษา แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทวาระนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล พระบรมเดชานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ และพระบุญญาบารมีที่ได้ทรงบำเพ็ญมา โปรดดลบันดาลอภิบาล รักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระเจริญ ทรงพระเกษมสำราญ พระราชหฤทัยชื่นบาน ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง เจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลทั่วทุกสารทิศ สถิตเสถียรในมไหสวรรย์ราชสมบัติ ทรงเป็นมิ่งขวัญร่มโพธิ์ทองของปวงข้าพระพุทธเจ้า และพสกนิกรชาวไทย ตราบจิรัฐิติกาล ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ในนามของข้าราชการฝ่ายตุลาการที่ปฏิบัติราชการสนองพระเดชพระคุณ ภายใต้เบื้องพระยุคลบาท ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลพระกรุณา แสดงความจงรักภักดี ปีติโสมนัส เนื่องในวันมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ทรงเป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย และทรงสถิตอยู่ในดวงใจของประชาราษฎร์ตลอดมา
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงเป็นพระประมุขของประเทศ ผู้ทรงดำรงอยู่ในพระราชนิติแห่งธรรมิกราช เพราะเพียบพร้อมด้วยทศพิธราชธรรม จักรวรรดิวัตร และสังคหวัตถุ อย่างครบถ้วน
ทรงอุทิศพระองค์ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย และความเจริญก้าวหน้าของประเทศ
ในด้านการศาล ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงรอบรู้ในธรรมศาสตร์และนิติศาสตร์อย่างประเสริฐ ได้พระราชทานแนวทางการปฏิบัติหน้าที่แก่นักกฎหมาย และตุลาการ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรมและประโยชน์ของประเทศชาติ โดยให้พินิจพิเคราะห์ปัญหาและสิ่งต่างๆ ด้วยคุณธรรม ความรอบรู้ ตลอดจนความเข้าใจในวิถีชีวิตของปวงชนตามกาลสมัย อันจะนำพาประเทศไปสู่ความสมบูรณ์และความเป็นปึกแผ่น มั่นคงสถาวร
ข้าพระพุทธเจ้า บรรดาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ผู้พิจารณาพิพากษาอรรถคดีในพระปรมาภิไธย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น หาที่สุดมิได้ ขอตั้งสัตย์ปฏิญาณด้วยดวงจิตอันมั่นคง เปี่ยมด้วยความภักดี ว่า จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่สนองพระเดชพระคุณ ในอันที่จะประสิทธิประสาทความยุติธรรมแก่ปวงชนด้วยความเที่ยงธรรมและสุจริตธรรม อย่างเต็มกำลังสามารถ
ในสมัยอันเป็นมงคลนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยอันประเสริฐ และพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ได้โปรดอภิบาลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระสุขภาพ พลานามัย มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ เพียบพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย สถิตสถาพรในรัตนราชไอศูรย์ ยั่งยืนตลอดกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณา กล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ
"ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารทุกเหล่าทัพ ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ทหารรักษาพระองค์ และทหารทุกหน่วย ทุกเหล่าทัพ ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ถวายสัตย์ปฏิญาณ
ต่อไปนี้ ให้ทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณตามข้าพเจ้า
ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ขอถวายคำสัตย์ปฏิญาณต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ว่า ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดีและถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจักปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ
"คำอวยพร และคำปฏิญาณ สัญญา ที่ทุกท่านได้กล่าวนั้น เป็นที่ประทับใจมาก ขอขอบใจท่านทั้งหลาย ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคนที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปรารถนาดี และไมตรีจิต
ความปรารถนาดี และความพร้อมเพรียงกันของทุกท่าน อย่างที่ได้เห็นในวันนี้ ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตา ปรารถนาดีของท่านต่อกันนี้ เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะทำให้ความพร้อมเพรียงจะเกิดขึ้น มีขึ้นทั้งในหมู่คณะ และในชาติบ้านเมือง
แต่ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันนี้อยู่ในจิตใจ ก็จะมีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอดปลอดภัย และธำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านและชาติไทย ให้มีแต่ความผาสุกร่มเย็น ยิ่งยืนไป"
จบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ