พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผกก.สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุ่งลุงจำนวนหนึ่ง เข้าทำการตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 36 ถนนเทพสถิต ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ หลังได้รับแจ้งว่าที่บ้านดังกล่าวมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดกัน
ผลการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดกระเป๋าผ้าแบบถือสีดำแถบน้ำตาล ภายในบรรจุโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ซิมโทรศัพท์มือถือ 2 อัน กระป๋องสีพันด้วยเทปสีดำ ภายในบรรจุดินประสิว ต่อสายไฟออกมาจากภายใน จำนวน 1 กระป๋อง แผงวงจร มีแบตเตอรี่ ขนาด 6 โวลล์ จำนวน 2 ก้อน และมีสวิตช์เบรกเกอร์ 1 อัน น้ำมันเบนซิน จำนวน 5 ลิตร ปุ๋ยยูเรีย จำนวน 4 ถุงเล็ก
ตำรวจยังตรวจยึดหม้อต้มน้ำภายในมีน้ำกระท่อม ซึ่งผสมน้ำอัดลม และยาแก้ไอ ประมาณ 1 ลิตร ขวดยาแก้ไอ จำนวน 1 ขวด กาละมังใส่น้ำแข็ง จำนวน 1 ใบ แก้วน้ำ 1 ใบ หม้อต้มน้ำภายในมีกากใบกระท่อมประมาณ 0.4 ก.ก. ขาตั้งแก๊สจำนวน 1 อัน จึงยึดไว้เป็นของกลางควบคุมตัว นายชนวีร์ ไหลม่าสัน อายุ 19 ปี นายอำพล แก้วเพ็ชรกูล อายุ 19 ปี นายธีระพงค์ พุ่มอยู่ อายุ 21 ปี และเยาวชนชายอีก 3 คน อายุ 16 ปี เยาวชนใน จ.สงขลา นำตัวทั้ง 6 คน พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.ทุ่งลุง
จากนั้นแจ้งข้อหานายชนวีร์ นายอำพล นายธีระพงค์ และเยาวชนอีก 3คน ในข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองและผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย ส่วนนายธีระพงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มอีกข้อหา คือ ข้อหาประกอบวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
นายธีระพงค์ รับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ประกอบวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือเอง โดยมีเพื่อนที่เป็นทหารพรานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นคนสอนให้ทำ และหลังจากที่ตนเอง ได้ซื้ออุปกรณ์ในการประกอบวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือมาจากร้านขายของทั่วไป เช่น สวิตช์ ก็ซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น และตนเองประกอบวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยเป็นการประกอบครั้งแรกเพื่อจะทดลองนำไปใช้จุดพลุในวันปีใหม่ที่หาดใหญ่ แต่มาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ตรวจยึดมาได้นั้นเป็นชุดแผงวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือที่ยังใช้การได้ดี ส่วนผสมซึ่งเป็นปุ๋ยยูเรีย สายไฟฟ้า ดินประสิว น้ำมันเบนซิน สามารถทำระเบิดได้น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวน เพื่อขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ เพื่อดำเนินการต่อไป
ผลการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดกระเป๋าผ้าแบบถือสีดำแถบน้ำตาล ภายในบรรจุโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง ซิมโทรศัพท์มือถือ 2 อัน กระป๋องสีพันด้วยเทปสีดำ ภายในบรรจุดินประสิว ต่อสายไฟออกมาจากภายใน จำนวน 1 กระป๋อง แผงวงจร มีแบตเตอรี่ ขนาด 6 โวลล์ จำนวน 2 ก้อน และมีสวิตช์เบรกเกอร์ 1 อัน น้ำมันเบนซิน จำนวน 5 ลิตร ปุ๋ยยูเรีย จำนวน 4 ถุงเล็ก
ตำรวจยังตรวจยึดหม้อต้มน้ำภายในมีน้ำกระท่อม ซึ่งผสมน้ำอัดลม และยาแก้ไอ ประมาณ 1 ลิตร ขวดยาแก้ไอ จำนวน 1 ขวด กาละมังใส่น้ำแข็ง จำนวน 1 ใบ แก้วน้ำ 1 ใบ หม้อต้มน้ำภายในมีกากใบกระท่อมประมาณ 0.4 ก.ก. ขาตั้งแก๊สจำนวน 1 อัน จึงยึดไว้เป็นของกลางควบคุมตัว นายชนวีร์ ไหลม่าสัน อายุ 19 ปี นายอำพล แก้วเพ็ชรกูล อายุ 19 ปี นายธีระพงค์ พุ่มอยู่ อายุ 21 ปี และเยาวชนชายอีก 3 คน อายุ 16 ปี เยาวชนใน จ.สงขลา นำตัวทั้ง 6 คน พร้อมของกลางมาทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.ทุ่งลุง
จากนั้นแจ้งข้อหานายชนวีร์ นายอำพล นายธีระพงค์ และเยาวชนอีก 3คน ในข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองและผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย ส่วนนายธีระพงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มอีกข้อหา คือ ข้อหาประกอบวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
นายธีระพงค์ รับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ประกอบวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือเอง โดยมีเพื่อนที่เป็นทหารพรานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นคนสอนให้ทำ และหลังจากที่ตนเอง ได้ซื้ออุปกรณ์ในการประกอบวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือมาจากร้านขายของทั่วไป เช่น สวิตช์ ก็ซื้อที่ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น และตนเองประกอบวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยเป็นการประกอบครั้งแรกเพื่อจะทดลองนำไปใช้จุดพลุในวันปีใหม่ที่หาดใหญ่ แต่มาถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจากอุปกรณ์ที่ตรวจยึดมาได้นั้นเป็นชุดแผงวงจรจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือที่ยังใช้การได้ดี ส่วนผสมซึ่งเป็นปุ๋ยยูเรีย สายไฟฟ้า ดินประสิว น้ำมันเบนซิน สามารถทำระเบิดได้น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวน เพื่อขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ เพื่อดำเนินการต่อไป
