นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พบว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่เล่นงานหน่วยงานและข้าราชการที่ปล่อยให้ข้อมูลหลุดมายังฝ่ายค้านนำมาใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเล่นงานทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น กรณีของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคลิปเสียงที่เป็นคำพูดเกี่ยวกับการโยกย้ายนายทหาร และฝ่ายค้านนำมาเปิดระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา เพื่อเอาผิดคนอัดเทป พร้อมจะลงโทษรุนแรง แทนที่จะไปสอบคลิปเสียงว่าเป็นคำพูดของตัวเองจริงหรือไม่ ทำให้ชัดเจนว่าตรงนี้เป็นเสียงของ พล.อ.อ.สุกำพล จริง
นอกจากนี้ ฝ่ายค้านทราบว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจของรัฐประเมินว่าข้าราชการคนไหนส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้าน สาเหตุที่ต้องประเมินเพราะฝ่ายรัฐตรวจสอบไม่ได้ โดยประเมินว่าน่าจะเป็นคนนั้น คนนี้ หากประเมินผิดจะเป็นการกลั่นแกล้งคนไม่รู้เรื่อง และไม่เกี่ยวข้อง ทำให้กลายเป็นตราบาปต่อข้าราชการ และคิดว่าการเล่นงานแบบนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง รัฐบาลไม่ควรใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมเล่นงานข้าราชการ แต่ควรรับความจริงหาทางแก้ไขมากกว่าแก้ตัว ในทางตรงกันข้ามควรจะตอบแทนบุคคลเหล่านี้ให้ก้าวหน้าในทางราชการมากกว่า เพราะหากเล่นงานคนที่ไม่เห็นด้วยกับการทุจริต ก็เท่ากับว่ารัฐบาลยืนอยู่ข้างความทุจริตประพฤติมิชอบ
นอกจากนี้ ฝ่ายค้านทราบว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจของรัฐประเมินว่าข้าราชการคนไหนส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้าน สาเหตุที่ต้องประเมินเพราะฝ่ายรัฐตรวจสอบไม่ได้ โดยประเมินว่าน่าจะเป็นคนนั้น คนนี้ หากประเมินผิดจะเป็นการกลั่นแกล้งคนไม่รู้เรื่อง และไม่เกี่ยวข้อง ทำให้กลายเป็นตราบาปต่อข้าราชการ และคิดว่าการเล่นงานแบบนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง รัฐบาลไม่ควรใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมเล่นงานข้าราชการ แต่ควรรับความจริงหาทางแก้ไขมากกว่าแก้ตัว ในทางตรงกันข้ามควรจะตอบแทนบุคคลเหล่านี้ให้ก้าวหน้าในทางราชการมากกว่า เพราะหากเล่นงานคนที่ไม่เห็นด้วยกับการทุจริต ก็เท่ากับว่ารัฐบาลยืนอยู่ข้างความทุจริตประพฤติมิชอบ
