นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายรัฐบาลในช่วงสมัยนิติบัญญัติ ว่า เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายเคยเตือนรัฐบาลแล้วว่าอย่าดึงดันเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป เพราะชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลยังมีความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของคนเพียง 2 คน ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะนำประเทศไปสู่ความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ขณะที่ฝ่ายค้านยืนยันจะคัดค้านต่อไป เพราะมีท่าทีชัดเจนแล้วว่า หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการฉีกฉบับเดิมทิ้งเพื่อเขียนใหม่ทั้งฉบับ ก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่ากลับมาแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไร และการที่คณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลร่างเหตุผลของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะรู้วัตถุประสงค์อยู่ว่าตั้งคณะทำงานนี้ขึ้นมาเพื่อซื้อเวลาหาความชอบธรรมให้กับการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเดินหน้าต่อไปเท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลครบรอบ 1 ปี ที่รัฐบาลยื่นมายังสภาแล้ว ว่า ขณะนี้วิปรัฐบาลยังไม่ได้ประสานงานมายังวิปฝ่ายค้าน คาดว่าเมื่อเปิดสมัยประชุมสมัยนิติบัญญัติ ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ประธานสภาฯ คงบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ แต่ไม่แน่ใจว่าจะบรรจุปลายเดือนธันวาคม หรือต้นเดือนมกราคม 2556 ซึ่งฝ่ายรัฐบาลได้ส่งผลการดำเนินงานมายังรัฐสภาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของสมัยประชุมสมัยสามัญทั่วไป ที่เพิ่งปิดสมัยไป แสดงให้เห็นเจตนาชัดเจนว่าไม่อยากให้มีการอภิปรายในสมัยสามัญทั่วไป เพราะหากต้องการอภิปราย ก็ต้องส่งมาก่อนหน้านี้ และเป็นการซื้อเวลาไปให้อภิปรายในสมัยประชุมสมัยนิติบัญญัติแทน
ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลครบรอบ 1 ปี ที่รัฐบาลยื่นมายังสภาแล้ว ว่า ขณะนี้วิปรัฐบาลยังไม่ได้ประสานงานมายังวิปฝ่ายค้าน คาดว่าเมื่อเปิดสมัยประชุมสมัยนิติบัญญัติ ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ประธานสภาฯ คงบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ แต่ไม่แน่ใจว่าจะบรรจุปลายเดือนธันวาคม หรือต้นเดือนมกราคม 2556 ซึ่งฝ่ายรัฐบาลได้ส่งผลการดำเนินงานมายังรัฐสภาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของสมัยประชุมสมัยสามัญทั่วไป ที่เพิ่งปิดสมัยไป แสดงให้เห็นเจตนาชัดเจนว่าไม่อยากให้มีการอภิปรายในสมัยสามัญทั่วไป เพราะหากต้องการอภิปราย ก็ต้องส่งมาก่อนหน้านี้ และเป็นการซื้อเวลาไปให้อภิปรายในสมัยประชุมสมัยนิติบัญญัติแทน
