ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณ 50 คน เข้าพบนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยนายบุญสม กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 154 ราย บาดเจ็บ 151 ราย และทุพพลภาพอีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ล่าสุดเหตุการณ์ลอบสังหารนางนันทนา แก้วจันทร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ เสียชีวิตอีก 1 ราย อย่างไรก็ตาม ทางสมาพันธ์ครูฯ ได้ประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และมีการปรับมาตรการต่างๆ โดยในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ โรงเรียนใน จ.ปัตตานี ทั้งหมดจะเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ เพราะได้รับคำยืนยันจากหน่วยงานความมั่นคงแล้วว่าจะดูแลตามมาตรการที่ได้หารือ
อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ครูฯ ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการช่วยเร่งรัดผลักดันเกี่ยวกับสวัสดิการของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ เพิ่มค่าตอบแทนเสี่ยงภัย จากเดิม 2,500 บาท เป็น 3,500 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมาได้รับอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2553 แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้อีกคนละ 200,000 บาทต่อคนต่อปี ขอให้ผู้ที่อยู่เกิน 5 ปี ได้รับเงินพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.) ให้ครูกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และขอให้พิจารณาแนวทางการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะให้แก่ครูในพื้นที่เป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งการให้เงินเยียวยาแก่ครอบครัวและทายาทผู้เสียชีวิต รายละ 4 ล้านบาท ที่ผ่านมาเคยได้รับการอนุมัติในหลักการแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้รับเงิน ทั้งนี้ การจ่ายเงินจะเป็นงบผูกพันปีละ 1 ล้านบาท ก็ได้
ด้านนายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนได้รับข้อเสนอทั้งหมดและจะเร่งผลักดันเรื่องต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรในพื้นที่ โดยในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ตน และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเดินทางไปยังโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ปัตตานี เพื่อพบกับบุคลากรในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ ล่าสุดเหตุการณ์ลอบสังหารนางนันทนา แก้วจันทร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ากำชำ เสียชีวิตอีก 1 ราย อย่างไรก็ตาม ทางสมาพันธ์ครูฯ ได้ประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และมีการปรับมาตรการต่างๆ โดยในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ โรงเรียนใน จ.ปัตตานี ทั้งหมดจะเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ เพราะได้รับคำยืนยันจากหน่วยงานความมั่นคงแล้วว่าจะดูแลตามมาตรการที่ได้หารือ
อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ครูฯ ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการช่วยเร่งรัดผลักดันเกี่ยวกับสวัสดิการของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ เพิ่มค่าตอบแทนเสี่ยงภัย จากเดิม 2,500 บาท เป็น 3,500 บาทต่อเดือน ที่ผ่านมาได้รับอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2553 แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้อีกคนละ 200,000 บาทต่อคนต่อปี ขอให้ผู้ที่อยู่เกิน 5 ปี ได้รับเงินพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.) ให้ครูกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และขอให้พิจารณาแนวทางการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะให้แก่ครูในพื้นที่เป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งการให้เงินเยียวยาแก่ครอบครัวและทายาทผู้เสียชีวิต รายละ 4 ล้านบาท ที่ผ่านมาเคยได้รับการอนุมัติในหลักการแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้รับเงิน ทั้งนี้ การจ่ายเงินจะเป็นงบผูกพันปีละ 1 ล้านบาท ก็ได้
ด้านนายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนได้รับข้อเสนอทั้งหมดและจะเร่งผลักดันเรื่องต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรในพื้นที่ โดยในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ตน และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเดินทางไปยังโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ปัตตานี เพื่อพบกับบุคลากรในพื้นที่ด้วย