น.ส.ทอแสง ไชยประวัติ ผู้จัดการแผนกวางแผนการพาณิชย์ บมจ.ไทยออยล์ กล่าวว่า ค่าการตลาดน้ำมันกลุ่มเบนซินในขณะนี้ อยู่ที่ประมาณ 2 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลอยู่ที่ประมาณ 1.50 บาทต่อลิตร ดังนั้นแนวโน้มราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินมีโอกาสปรับลดลงในสัปดาห์นี้ แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า จะจัดเก็บเงินกองทุนเพิ่ม เพื่อแก้ไขปัญหาเงินกองทุนที่ติดลบเกือบ 20,000 ล้านบาทหรือไม่
ทั้งนี้ ไทยออยล์คาดว่า ราคาน้ำมันสัปดาห์นี้จะยังคงผันผวน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 104-112 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เทกซัส จะเคลื่อนไหวในกรอบ 104-112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับเพิ่มขึ้น 3.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาปิดที่ 109.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับเพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 86.07 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ จะได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่งจะมีการประชุมรัฐมนตรีการคลังสหภาพยุโรปในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เพื่อหารือเรื่องเงินช่วยเหลืองวดถัดไปของกรีซ และรายละเอียดของเงินช่วยเหลือของสเปน
นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลกับปัญหาหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐฯ ว่า จะแก้ไขได้ทันเวลาหรือไม่ โดยประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ ได้เชิญสมาชิกสภาคองเกรสเข้ามาหารือเรื่องนี้ในวันศุกร์นี้ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยังเป็นปัจจัยหนุนให้ราคายังยืนอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ไทยออยล์คาดว่า ราคาน้ำมันสัปดาห์นี้จะยังคงผันผวน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 104-112 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เทกซัส จะเคลื่อนไหวในกรอบ 104-112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับเพิ่มขึ้น 3.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาปิดที่ 109.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับเพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 86.07 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ จะได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่งจะมีการประชุมรัฐมนตรีการคลังสหภาพยุโรปในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เพื่อหารือเรื่องเงินช่วยเหลืองวดถัดไปของกรีซ และรายละเอียดของเงินช่วยเหลือของสเปน
นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลกับปัญหาหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐฯ ว่า จะแก้ไขได้ทันเวลาหรือไม่ โดยประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ ได้เชิญสมาชิกสภาคองเกรสเข้ามาหารือเรื่องนี้ในวันศุกร์นี้ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยังเป็นปัจจัยหนุนให้ราคายังยืนอยู่ในระดับสูง