คลิปวิดีโอที่ใช้ชื่อว่า "the truth from krabi" ถูกตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ทำขึ้น เพื่อชี้แจงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในคดีนางแบบชาวเนเธอร์แลนด์ อายุ 19 ปี แจ้งความว่าถูกช่างสักข่มขืน ขณะเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ เนื่องจากหลังเกิดเหตุบิดาของนางแบบคนดังกล่าว ได้ทำคลิปวีดีโอชื่อ "Evil man from Krabi"โพสต์ในเว็บไซต์ยูทิวบ์โดยมีเนื้อหาระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมคดีบุตรสาวถูกข่มขืน จนส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ และทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยกเลิกการเดินทางมาเที่ยวในไทยจำนวนมาก
ขณะที่คลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ทำขึ้นมี พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เป็นผู้ชี้แจงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานชี้แจงความคืบหน้าของคดีกับสถานทูตฯ พร้อมกับขอนุมัติศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา และควบคุมผู้ต้องหาฝากขังตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด เนื่องจากผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ แต่ภายหลังผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัวออกไปในชั้นศาล จึงอาจทำให้บิดาของนางแบบชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งไม่เข้าใจกฎหมายไทยไม่พอใจ และทำคลิปขึ้นมาโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย
โดยเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่า ได้ดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่เนื่องจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า ผู้ต้องหาและผู้เสียหายเดินจูงมือกลับเข้าที่พักด้วยกัน จึงต้องสอบสวนให้รัดกุมว่าเป็นคดีข่มขืนหรือไม่
ขณะที่คลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ทำขึ้นมี พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เป็นผู้ชี้แจงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานชี้แจงความคืบหน้าของคดีกับสถานทูตฯ พร้อมกับขอนุมัติศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา และควบคุมผู้ต้องหาฝากขังตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด เนื่องจากผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ แต่ภายหลังผู้ต้องหาได้ยื่นขอประกันตัวออกไปในชั้นศาล จึงอาจทำให้บิดาของนางแบบชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งไม่เข้าใจกฎหมายไทยไม่พอใจ และทำคลิปขึ้นมาโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย
โดยเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่า ได้ดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่เนื่องจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า ผู้ต้องหาและผู้เสียหายเดินจูงมือกลับเข้าที่พักด้วยกัน จึงต้องสอบสวนให้รัดกุมว่าเป็นคดีข่มขืนหรือไม่