หลังจากที่รัฐบาลขยายโครงการร้านค้าถูกใจ เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนออกไปอีก 3 เดือน จนถึงสิ้นปีนี้ โดยใช้งบประมาณที่เหลือจากโครงการเก่า ทำให้ต้องปรับลดค่าจ้างรายวันของพนักงานขายเป็นวันละ 200 บาท จาก 300 บาท หรือคิดเป็น 6,000 บาทต่อเดือน จาก 9,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะมีผลสิ้นเดือนนี้
นางวิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หากประชาชนให้การตอบรับโครงการนี้ จะเสนอให้ขยายโครงการออกไปอีก แต่ต้องบริหารจัดการงบประมาณให้น้อยลง โดยเฉพาะค่าขนส่งที่เป็นค่าใช้จ่ายหลักในการขนส่งสินค้า ซึ่งในวันศุกร์นี้จะหารือ ร่วมกับผู้ผลิตสินค้ากว่า 20 รายการ เพื่อขอความร่วมมือในการลดค่าใช้จ่าย
ปัจจุบันมีร้านค้าถูกใจ 10,200 ร้านค้า สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 ร้านค้า ซึ่งจะปรับปรุงเงื่อนไขของโครงการใหม่ เพื่อคัดเลือกเฉพาะร้านที่มีคุณภาพให้ร่วมโครงการต่อ โดยประเมินจากยอดสั่งซื้อจากร้านในแต่ละชุมชน โดยประเมินจากยอดสั่งซื้อจากร้านในแต่ละชุมชน ว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนในระแวกใกล้เคียงได้อย่างแท้จริงหรือไม่ และจะคัดออกประมาณ 100-200 ร้านค้า ให้เหลือเพียง 10,000 ร้านค้าตามเป้าหมายเดิม
นางวิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หากประชาชนให้การตอบรับโครงการนี้ จะเสนอให้ขยายโครงการออกไปอีก แต่ต้องบริหารจัดการงบประมาณให้น้อยลง โดยเฉพาะค่าขนส่งที่เป็นค่าใช้จ่ายหลักในการขนส่งสินค้า ซึ่งในวันศุกร์นี้จะหารือ ร่วมกับผู้ผลิตสินค้ากว่า 20 รายการ เพื่อขอความร่วมมือในการลดค่าใช้จ่าย
ปัจจุบันมีร้านค้าถูกใจ 10,200 ร้านค้า สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 ร้านค้า ซึ่งจะปรับปรุงเงื่อนไขของโครงการใหม่ เพื่อคัดเลือกเฉพาะร้านที่มีคุณภาพให้ร่วมโครงการต่อ โดยประเมินจากยอดสั่งซื้อจากร้านในแต่ละชุมชน โดยประเมินจากยอดสั่งซื้อจากร้านในแต่ละชุมชน ว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนในระแวกใกล้เคียงได้อย่างแท้จริงหรือไม่ และจะคัดออกประมาณ 100-200 ร้านค้า ให้เหลือเพียง 10,000 ร้านค้าตามเป้าหมายเดิม
