นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปัจจุบันข้าวหอมมะลิของไทยที่มียอดส่งออกเป็นอันดับ 1 เริ่มมีคู่แข่งมากขึ้น โดยเฉพาะกัมพูชา เนื่องจากมีพื้นที่ติดกัน คุณภาพใกล้เคียงกัน พันธุ์ข้าวหอมมะลิจึงเกือบจะเป็นตัวเดียวกัน
นอกจากนี้ ข้าวหอมมะลิของไทยยังขายในราคาแพงกว่าประเทศอื่น โดยขายในราคา 1,100-1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวหอมของเวียดนาม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และกัมพูชาขายที่ 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นอกจากนี้ คุณภาพข้าวหอมของไทย ก็ยังมีข้าวชนิดอื่นปนมากกว่าในอดีต เพราะไม่มีการจัดทำโซนนิ่งปลูกข้าวหอมมะลิ จึงต้องมีการพัฒนาข้าวหอมมะลิ โดยวิจัยและพัฒนาให้เม็ดยาวและหอมกว่าเดิม
ส่วนการส่งออกข้าว ขณะนี้ ส่งออกข้าวแล้ว 5 ล้านตัน โดยตลอดปีนี้ นายชูเกียรติ คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 6.5 ล้านตัน มูลค่า 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่รวมยอดส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ ลดลงจากปีที่แล้วที่เอกชนส่งออกได้ 10.6 ล้านตัน ประมาณร้อยละ 40 โดยประเทศผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดในตลาดโลกจนถึงวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมาคืออินเดีย 5.56 ล้านตัน เวียดนาม 5.35 ล้านตัน
นอกจากนี้ ข้าวหอมมะลิของไทยยังขายในราคาแพงกว่าประเทศอื่น โดยขายในราคา 1,100-1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ขณะที่ข้าวหอมของเวียดนาม 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และกัมพูชาขายที่ 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นอกจากนี้ คุณภาพข้าวหอมของไทย ก็ยังมีข้าวชนิดอื่นปนมากกว่าในอดีต เพราะไม่มีการจัดทำโซนนิ่งปลูกข้าวหอมมะลิ จึงต้องมีการพัฒนาข้าวหอมมะลิ โดยวิจัยและพัฒนาให้เม็ดยาวและหอมกว่าเดิม
ส่วนการส่งออกข้าว ขณะนี้ ส่งออกข้าวแล้ว 5 ล้านตัน โดยตลอดปีนี้ นายชูเกียรติ คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 6.5 ล้านตัน มูลค่า 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่รวมยอดส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ ลดลงจากปีที่แล้วที่เอกชนส่งออกได้ 10.6 ล้านตัน ประมาณร้อยละ 40 โดยประเทศผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดในตลาดโลกจนถึงวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมาคืออินเดีย 5.56 ล้านตัน เวียดนาม 5.35 ล้านตัน