พ.ต.ท.ฤทธี เผ่าพันธ์ สารวัตรตำรวจน้ำภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการดับเพลิงที่ลุกไหม้บริเวณทางท้ายเรือบรรทุกก๊าซ LPG "กันธิชา" ซึ่งเป็นเรือบรรทุกก๊าซเหลวขนาดใหญ่ ขณะจอดลอยลำที่บริเวณหน้าเกาะตะเภาใหญ่ ห่างจากท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 2 กิโลเมตร ว่า หลังได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรเรือ 814 หรือเรือคุณพุ่ม ว่า มีเหตุไฟไหม้เรือบรรทุกก๊าซ จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กองกำกับการตำรวจน้ำภูเก็ต ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าท่าสาขาภูเก็ต เทศบาลตำบลวิชิต พร้อมจัดเรือเข้าไปดับเพลิงที่ลุกไหม้บริเวณห้องสื่อสารที่ท้ายเรือดังกล่าว โดยเรือดับเพลิงของเจ้าท่าใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ในการฉีดน้ำเข้าไปดับเพลิงที่เรือลำดังกล่าวจึงสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 14.00 น.
หลังจากควบคุมเพลิงได้ เจ้าหน้าที่ และเรือดับเพลิงได้ถอนกำลังกลับเข้าฝั่ง ส่วนเรือของตำรวจน้ำ 2 ลำยังลาดตระเวนอยู่ในบริเวณอ่าวมะขาม ใกล้ๆ กับจุดที่เกิดเหตุไฟไหม้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรเรือ 814 ขณะกำลังนำเรือลาดตระเวนพบมีกลุ่มควันคุขึ้นจากเรืออีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าของเรือ คือ บริษัทสยามมารีไทร์ม เลขทะเบียนเรือ 550001467 แล้ว เพื่อให้จัดส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการดับเพลิงที่คุขึ้นอีกรอบนั้นทางเจ้าของเรือประสานงานจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิงที่คุขึ้นมาอีกรอบ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. กลุ่มควันที่คุขึ้นมาได้ดับไปแล้ว ซึ่งจะต้องเฝ้าดูสถานการณ์ตลอดเวลาเนื่องจากบนเรือยังมีความร้อนอยู่
พ.ต.ท.ฤทธี กล่าวต่อไปว่า สำหรับความเสียหายของเรือนั้น จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณห้องสื่อสารถูกไฟไหม้ทั้งหมด รวมทั้งวิทยุสื่อสารต่างๆ ระบบดาวเทียมและอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตำรวจน้ำได้จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้นยังไม่สามารถบอกได้ คงต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ได้รับการประสานจากผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตแล้ว ส่วนจะตรวจสอบได้เมื่อไหร่ต้องรอในส่วนของเจ้าของเรือก่อน
หลังจากควบคุมเพลิงได้ เจ้าหน้าที่ และเรือดับเพลิงได้ถอนกำลังกลับเข้าฝั่ง ส่วนเรือของตำรวจน้ำ 2 ลำยังลาดตระเวนอยู่ในบริเวณอ่าวมะขาม ใกล้ๆ กับจุดที่เกิดเหตุไฟไหม้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ปัญญา ชัยชนะ สารวัตรเรือ 814 ขณะกำลังนำเรือลาดตระเวนพบมีกลุ่มควันคุขึ้นจากเรืออีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าของเรือ คือ บริษัทสยามมารีไทร์ม เลขทะเบียนเรือ 550001467 แล้ว เพื่อให้จัดส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการดับเพลิงที่คุขึ้นอีกรอบนั้นทางเจ้าของเรือประสานงานจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิงที่คุขึ้นมาอีกรอบ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. กลุ่มควันที่คุขึ้นมาได้ดับไปแล้ว ซึ่งจะต้องเฝ้าดูสถานการณ์ตลอดเวลาเนื่องจากบนเรือยังมีความร้อนอยู่
พ.ต.ท.ฤทธี กล่าวต่อไปว่า สำหรับความเสียหายของเรือนั้น จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณห้องสื่อสารถูกไฟไหม้ทั้งหมด รวมทั้งวิทยุสื่อสารต่างๆ ระบบดาวเทียมและอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตำรวจน้ำได้จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนต่อเนื่อง ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้นยังไม่สามารถบอกได้ คงต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ได้รับการประสานจากผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตแล้ว ส่วนจะตรวจสอบได้เมื่อไหร่ต้องรอในส่วนของเจ้าของเรือก่อน