คณะกรรมการตรวจสอบคดีน้ำมันของกลางหนีภาษีสูญหาย จากกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สตูล เรียกตรวจสอบสำนวนการสอบสวน และเอกสารใบตรวจยึดจากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรควนโดน หลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าตรวจยึดน้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซินหนีภาษีจำนวนกว่า 47,000 ลิตร เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา และพบปัญหาน้ำมันของกลางสูญหายไปกว่า 40,000 ลิตร ขณะอยู่ในความดูแลของตำรวจภูธรควนโดน
พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สตูล ประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ระบุว่า จากการตรวจสอบบันทึกการจับกุมพบว่า ในบันทึกระบุจำนวนน้ำมันที่ยึดได้บรรจุใส่ถัง 1,000 ลิตร จำนวน 40 ถัง และถัง 200 ลิตร จำนวน 35 ถัง แต่ไม่ระบุปริมาณน้ำมันที่ชัดเจน ซึ่งในแต่ละถังจะมีอยู่กี่ลิตรนั้น ในประเด็นนี้จะเชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้ามาให้ข้อมูล ก่อนจะสอบสวนตำรวจดูแลของกลาง
ขณะที่นายอมรเทพ อรุโณประโยชน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว และยืนยันน้ำมันของกลางมีจำนวนตรงตามที่ตรวจยึด เพราะหลังการจับกุมมีตำรวจภูธรควนโดน นายอำเภอ และสื่อมวลชน ร่วมตรวจสอบด้วย มีน้ำมันครบทุกถัง แต่เมื่อของกลางสูญหายจะต้องมีผู้รับผิดชอบ หากคดีนี้ทางดีเอสไออนุมัติให้เป็นคดีพิเศษ ทางดีเอสไอจะเข้าสอบสวนทันที
พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สตูล ประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ระบุว่า จากการตรวจสอบบันทึกการจับกุมพบว่า ในบันทึกระบุจำนวนน้ำมันที่ยึดได้บรรจุใส่ถัง 1,000 ลิตร จำนวน 40 ถัง และถัง 200 ลิตร จำนวน 35 ถัง แต่ไม่ระบุปริมาณน้ำมันที่ชัดเจน ซึ่งในแต่ละถังจะมีอยู่กี่ลิตรนั้น ในประเด็นนี้จะเชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้ามาให้ข้อมูล ก่อนจะสอบสวนตำรวจดูแลของกลาง
ขณะที่นายอมรเทพ อรุโณประโยชน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว และยืนยันน้ำมันของกลางมีจำนวนตรงตามที่ตรวจยึด เพราะหลังการจับกุมมีตำรวจภูธรควนโดน นายอำเภอ และสื่อมวลชน ร่วมตรวจสอบด้วย มีน้ำมันครบทุกถัง แต่เมื่อของกลางสูญหายจะต้องมีผู้รับผิดชอบ หากคดีนี้ทางดีเอสไออนุมัติให้เป็นคดีพิเศษ ทางดีเอสไอจะเข้าสอบสวนทันที
