เจดีย์ทรงไทยบรรจุอัฐิต้นตระกูล "ฉีหยี่กง" อายุกว่า 100 ปี ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวัดเล่งเน่ยยี่ และอาจถูกทุบทิ้ง หากการยื่นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ครั้งสุดท้ายต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อเป็นโบราณสถาน ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ไม่หนักแน่นพอ ศาลปกครองสูงสุดต้องพิพากษาเพิกถอนความคุ้มครอง
แม้ผู้ที่คุ้นเคยกับเจดีย์โบราณที่วัดเล่งเน่ยยี่บางส่วนรู้สึกเสียดาย หากต้องเสียสัญลักษณ์ความทรงจำส่วนหนึ่งของเยาวราชไป แต่ข้ออ้างในการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อรองรับการขยายตัวของระบบคมนาคม ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาจราจร ทำให้บางคนเห็นว่าต้องทำใจยอมรับ หากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เจดีย์โบราณองค์ดังกล่าว เชื่อว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 บรรจุอัฐิของฉีหยี่กง ต้นสกุลของหลายตระกูลโดยก่อนหน้านี้ทายาทได้ร้องขอให้กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเจดีย์ดังกล่าวเป็นโบราณสถาน แต่เนื่องจากเจดีย์บรรจุอัฐิต้นตระกูล"ฉี่ยี่กง"ไม่มีลักษณะเด่นและคุณค่าทางสถาปัตยกรรมมากพอ ทายาทจึงต่อสู้ในชั้นศาลเรื่อยมา จนถึงศาลปกครองชั้นสูงสุด ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษาสูงสุด
แม้ผู้ที่คุ้นเคยกับเจดีย์โบราณที่วัดเล่งเน่ยยี่บางส่วนรู้สึกเสียดาย หากต้องเสียสัญลักษณ์ความทรงจำส่วนหนึ่งของเยาวราชไป แต่ข้ออ้างในการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อรองรับการขยายตัวของระบบคมนาคม ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาจราจร ทำให้บางคนเห็นว่าต้องทำใจยอมรับ หากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เจดีย์โบราณองค์ดังกล่าว เชื่อว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 บรรจุอัฐิของฉีหยี่กง ต้นสกุลของหลายตระกูลโดยก่อนหน้านี้ทายาทได้ร้องขอให้กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเจดีย์ดังกล่าวเป็นโบราณสถาน แต่เนื่องจากเจดีย์บรรจุอัฐิต้นตระกูล"ฉี่ยี่กง"ไม่มีลักษณะเด่นและคุณค่าทางสถาปัตยกรรมมากพอ ทายาทจึงต่อสู้ในชั้นศาลเรื่อยมา จนถึงศาลปกครองชั้นสูงสุด ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษาสูงสุด
