สถานการณ์ราคายางในตลาดโลกที่ตกต่ำ ทำให้ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ทำข้อตกลงเบื้องต้นที่จะลดการส่งออก 3 แสนตัน หรือร้อยละ 3 ของปริมาณยางในตลาดโลกเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เพื่อดึงราคายางเพิ่ม
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาการยางพาราแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการนี้จะส่งผลทำให้ราคายางยิ่งตกต่ำ เนื่องจากในเดือนหน้าปริมาณผลผลิตของเกษตรกรจะออกมามาก ทำให้ปริมาณยางในประเทศเพิ่มขึ้น จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนมาตรการดังกล่าว พร้อมระบุว่า หากผู้ส่งออกต้องลดการส่งออกร้อยละ 10 รัฐบาลจะต้องซื้อยางจากเกษตรกรร้อยละ 10 เช่นเดียวกัน หรือลดการเก็บเงินสงเคราะห์ หรือ เงินเซลล์ จากผู้ส่งออกยางพารา จากกิโลกรัมละ 5 บาท เหลือกิโลกรัมละ 10 สตางค์ เป็นเวลาชั่วคราว จึงจะทำให้เงินส่วนต่างกลับคืนสู่เกษตรกร
ขณะที่นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้ราคายางปรับเพิ่มขึ้น เพราะดึงผลผลิตออกจากตลาดชั่วคราว โดยขณะนี้ประเทศผู้ซื้อรายใหญ่อย่างจีน ชะลอซื้อยางจากไทยเนื่องจากยังมียางสำรองไว้อีกราว 2 แสนตัน ในส่วนของกรมส่งเสริมวิชาการเกษตร จะเร่งแก้ไขปัญหาราคายางระยะสั้น ด้วยการรณรงค์ลดการกรีดยาง ส่วนองค์การสวนยางจะยังคงรับซื้อยางเก็บสต๊อกชั่วคราว เพื่อระบายในจังหวะที่เหมาะสม สำหรับการแก้ไขปัญหาราคายางระยะยาว สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จะส่งเสริมให้มีการใช้ยางในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง จากปัจจุบันที่ส่งออกประมาณร้อยละ 80
นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาการยางพาราแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการนี้จะส่งผลทำให้ราคายางยิ่งตกต่ำ เนื่องจากในเดือนหน้าปริมาณผลผลิตของเกษตรกรจะออกมามาก ทำให้ปริมาณยางในประเทศเพิ่มขึ้น จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนมาตรการดังกล่าว พร้อมระบุว่า หากผู้ส่งออกต้องลดการส่งออกร้อยละ 10 รัฐบาลจะต้องซื้อยางจากเกษตรกรร้อยละ 10 เช่นเดียวกัน หรือลดการเก็บเงินสงเคราะห์ หรือ เงินเซลล์ จากผู้ส่งออกยางพารา จากกิโลกรัมละ 5 บาท เหลือกิโลกรัมละ 10 สตางค์ เป็นเวลาชั่วคราว จึงจะทำให้เงินส่วนต่างกลับคืนสู่เกษตรกร
ขณะที่นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้ราคายางปรับเพิ่มขึ้น เพราะดึงผลผลิตออกจากตลาดชั่วคราว โดยขณะนี้ประเทศผู้ซื้อรายใหญ่อย่างจีน ชะลอซื้อยางจากไทยเนื่องจากยังมียางสำรองไว้อีกราว 2 แสนตัน ในส่วนของกรมส่งเสริมวิชาการเกษตร จะเร่งแก้ไขปัญหาราคายางระยะสั้น ด้วยการรณรงค์ลดการกรีดยาง ส่วนองค์การสวนยางจะยังคงรับซื้อยางเก็บสต๊อกชั่วคราว เพื่อระบายในจังหวะที่เหมาะสม สำหรับการแก้ไขปัญหาราคายางระยะยาว สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จะส่งเสริมให้มีการใช้ยางในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาง จากปัจจุบันที่ส่งออกประมาณร้อยละ 80
