นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยหลังจากที่เปิดให้ผู้ค้ายื่นซองประมูลในสต๊อกรัฐบาล ทั้งข้าวสารจากโครงการรับจำนำปีการผลิต 2554/2555 และข้าวเปลือกจากโครงการในอดีต รวม 7.5 แสนตันนั้น สามารถระบายข้าวได้รวม 229,661 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 3,973 ล้านบาท โดยข้าวสารหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 2 มีผู้ชนะการประมูล 3 ราย รวม 17,040 ตัน มูลค่า 508 ล้านบาท ขายได้ในราคาถูกสุดตันละ 30,000 บาท ใกล้เคียงกับราคาตลาด ซึ่งบริษัทสินเสนาได้ข้าวไปมากสุด 8,783 ตัน ที่ราคาตันละ 29,850 บาท
ขณะที่ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ มีผู้ได้รับการประมูล 4 ราย รวมเป็นปริมาณข้าว 210,660 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,435 ล้านบาท โดยที่บริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ชนะการประมูลข้าวมากที่สุดจำนวน 74,152 ตัน ที่ราคาตันละ 16,300 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิที่ค้างอยู่ในโครงการรับจำนำปีการผลิต 2548/2549 ได้อนุมัติขายข้าวให้ผู้ค้า 2 ราย รวมเป็นจำนวน 2,935 ตัน ราคาตันละ 5,300 บาท
กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า การประมูลข้าวในครั้งนี้ สามารถขายข้าวได้ราคาดี เพราะว่าผู้ค้าเสนอราคามาสูง และข้าวยังเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนข้าวที่เหลือจากการประมูลกว่า 5 แสนตัน จะเร่งระบายโดยให้ยื่นซองประมูลอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์
ขณะที่ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ มีผู้ได้รับการประมูล 4 ราย รวมเป็นปริมาณข้าว 210,660 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,435 ล้านบาท โดยที่บริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ชนะการประมูลข้าวมากที่สุดจำนวน 74,152 ตัน ที่ราคาตันละ 16,300 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิที่ค้างอยู่ในโครงการรับจำนำปีการผลิต 2548/2549 ได้อนุมัติขายข้าวให้ผู้ค้า 2 ราย รวมเป็นจำนวน 2,935 ตัน ราคาตันละ 5,300 บาท
กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า การประมูลข้าวในครั้งนี้ สามารถขายข้าวได้ราคาดี เพราะว่าผู้ค้าเสนอราคามาสูง และข้าวยังเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนข้าวที่เหลือจากการประมูลกว่า 5 แสนตัน จะเร่งระบายโดยให้ยื่นซองประมูลอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์
