พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ยังมีผู้ต้องขัง ซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ไม่ต่ำกว่า 200 ราย ในจำนวนนี้เป็นตัวการรายสำคัญ หรือ หัวโจก 26 ราย
ทั้งนี้มอบหมายให้ นายกอบเกียรติ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่แก้ไขปัญหา โดยให้ย้ายผู้ต้องขังสำคัญออกจากพื้นที่ภาคใต้ แต่ห้ามให้ทั้ง 26 คน ไปขังรวมกันที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี เพียงแห่งเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมกลุ่มวางแผน ลักลอบซื้อขายยาเสพติดอีก
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปเสริม พร้อมกับเปลี่ยนกำลัง หากพบเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ประสิทธิภาพลดลง จากปัจจุบันที่มีเจ้าหน้าที่ผู้คุมเพียงแค่ 160 คน แต่มีผู้ต้องขังมากถึง 5,000 คน ขณะเดียวกันให้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้ในเรือนจำแห่งนี้ ทั้งเครื่องตัดสัญญาณ และเครื่องดักจับสัญญาณ
ส่วนการจับกุม นายณัฐพล ระย้า อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำนครศรีธรรมราช พร้อมภรรยานั้น ยังมีเครือข่ายเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับนายณัฐพลหลงเหลืออยู่ในเรือนจำ เพียงแต่ได้หยุดพฤติการณ์ชั่วคราว ทั้งนี้จะมีการเข้มงวดร้านค้าสวัสดิการ และสถานพยาบาลในเรือนจำมากขึ้น
ทั้งนี้มอบหมายให้ นายกอบเกียรติ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่แก้ไขปัญหา โดยให้ย้ายผู้ต้องขังสำคัญออกจากพื้นที่ภาคใต้ แต่ห้ามให้ทั้ง 26 คน ไปขังรวมกันที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี เพียงแห่งเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรวมกลุ่มวางแผน ลักลอบซื้อขายยาเสพติดอีก
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปเสริม พร้อมกับเปลี่ยนกำลัง หากพบเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ประสิทธิภาพลดลง จากปัจจุบันที่มีเจ้าหน้าที่ผู้คุมเพียงแค่ 160 คน แต่มีผู้ต้องขังมากถึง 5,000 คน ขณะเดียวกันให้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้ในเรือนจำแห่งนี้ ทั้งเครื่องตัดสัญญาณ และเครื่องดักจับสัญญาณ
ส่วนการจับกุม นายณัฐพล ระย้า อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำนครศรีธรรมราช พร้อมภรรยานั้น ยังมีเครือข่ายเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับนายณัฐพลหลงเหลืออยู่ในเรือนจำ เพียงแต่ได้หยุดพฤติการณ์ชั่วคราว ทั้งนี้จะมีการเข้มงวดร้านค้าสวัสดิการ และสถานพยาบาลในเรือนจำมากขึ้น