นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการสัมมนา 1 ปียิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย โดยยอมรับว่า ตัวเลขการส่งออกในปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 15 โดยคาดว่าจะเหลือเพียงร้อยละ 9 เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอทั้งยุโรปและสหรัฐฯ ส่งผลให้การส่งออกของไทยนั้นชะลอตัว
นายกิตติรัตน์ ระบุว่า ภายใน 1 ปี รัฐบาลจะขับเคลื่อนทิศทางเศรษฐกิจไทย ภายใต้ 3 ปัจจัยหลัก เพื่อให้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่อไปได้ ได้แก่ ส่งเสริมการอุปโภคบริโภคในประเทศที่มีคุณภาพ การใช้จ่ายภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเพิ่มรายได้ภาคประชาชน และยกระดับราคาสินค้าเกษตร โดยเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยปรับสมดุลเศรษฐกิจไทย ทดแทนการส่งออกที่ลดน้อยลงได้
นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อไปว่า แม้จะคาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกลดลง แต่ยังเชื่อว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีในปีนี้ จะยังอยู่ที่ร้อยละ 6-7 ได้ โดยมองว่า เสถียรภาพทางการเมืองจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน พร้อมขอให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น เพราะที่ผ่านมาปัญหาการทุจริตบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย
นายกิตติรัตน์ ระบุว่า ภายใน 1 ปี รัฐบาลจะขับเคลื่อนทิศทางเศรษฐกิจไทย ภายใต้ 3 ปัจจัยหลัก เพื่อให้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่อไปได้ ได้แก่ ส่งเสริมการอุปโภคบริโภคในประเทศที่มีคุณภาพ การใช้จ่ายภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเพิ่มรายได้ภาคประชาชน และยกระดับราคาสินค้าเกษตร โดยเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยปรับสมดุลเศรษฐกิจไทย ทดแทนการส่งออกที่ลดน้อยลงได้
นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อไปว่า แม้จะคาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกลดลง แต่ยังเชื่อว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีในปีนี้ จะยังอยู่ที่ร้อยละ 6-7 ได้ โดยมองว่า เสถียรภาพทางการเมืองจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน พร้อมขอให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น เพราะที่ผ่านมาปัญหาการทุจริตบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย