นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่มีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ.ได้มีการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำที่ได้จัดสรรงบประมาณบางส่วน ทั้งระยะเร่งด่วน 120,000 ล้านบาท และระยะยาว 350,000 ล้านบาท ลงพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และการของบประมาณเพิ่มเติมในส่วนโครงการที่มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการ
ทั้งนี้ ในส่วนของกรมชลประทาน ได้ของบประมาณเพิ่มเติมจาก กบอ.2 โครงการ คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี จ.สิงห์บุรี วงเงิน 263.79 ล้านบาท และโครงการประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำกึ่งถาวร ปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จ.ปทุมธานี วงเงิน 340 ล้านบาท เนื่องจากเป็นโครงการต่อเนื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเสริมโครงการหลักในการบริหารจัดการน้ำป้องกันอุทกภัย ซึ่งจะมีการนำโครงการบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานต่างๆ ที่ของบประมาณเพิ่มเติม ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามความจำเป็น
ขณะที่ภาพรวมการทำโครงการฟื้นฟูพื้นที่และแหล่งน้ำต่างๆ คืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 90 เชื่อว่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมได้แน่นอน และคาดว่าจะเสร็จทันเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของกรมชลประทาน ได้ของบประมาณเพิ่มเติมจาก กบอ.2 โครงการ คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี จ.สิงห์บุรี วงเงิน 263.79 ล้านบาท และโครงการประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำกึ่งถาวร ปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ จ.ปทุมธานี วงเงิน 340 ล้านบาท เนื่องจากเป็นโครงการต่อเนื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเสริมโครงการหลักในการบริหารจัดการน้ำป้องกันอุทกภัย ซึ่งจะมีการนำโครงการบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานต่างๆ ที่ของบประมาณเพิ่มเติม ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามความจำเป็น
ขณะที่ภาพรวมการทำโครงการฟื้นฟูพื้นที่และแหล่งน้ำต่างๆ คืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 90 เชื่อว่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมได้แน่นอน และคาดว่าจะเสร็จทันเดือนสิงหาคมนี้