สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 และแนวโน้มปี 2555 ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ยังขยายตัวได้ 4.2 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมหลังน้ำท่วม แต่การส่งออกจะหดตัวจากปัญหาเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป สภาพัฒน์จึงได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จาก 5.5-6.5 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 5.5-6 เปอร์เซ็นต์ โดยปรับลดการคาดการณ์การส่งออกสินค้า จาก 15.1 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 7.3 เปอร์เซ็นต์ เพราะตลาดการส่งออกไปยังยุโรป และญี่ปุ่น ยังมีแนวโน้มหดตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ เครื่องนุ่มห่ม อัญมณี รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคของเอสเอ็มอี
ส่วนเรื่องของการลงทุนและการบริโภค มีแนวโน้มขยายตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เห็นได้ชัดจากการที่ตลาดต่างชาติขอสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมาตรการรถคันแรกก็ส่งผลให้ต่อยอดขายของกลุ่มรถยนต์ รวมถึงรายได้จากภาคการท่องเที่ยว ยังคงขยายตัวได้ดี ครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวแล้ว 10.5 ล้านคน
สำหรับความเสี่ยงที่สำคัญในระยะต่อไป คือ รัฐบาลต้องเร่งเบิกจ่ายเงินตามแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักธุรกิจและนักลงทุน เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ ให้กลับมาผลิตให้ได้ภายในปีนี้ และเพื่อทำให้การส่งออกดีขึ้น รวมถึงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีด้วย
ส่วนเรื่องของการลงทุนและการบริโภค มีแนวโน้มขยายตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เห็นได้ชัดจากการที่ตลาดต่างชาติขอสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมาตรการรถคันแรกก็ส่งผลให้ต่อยอดขายของกลุ่มรถยนต์ รวมถึงรายได้จากภาคการท่องเที่ยว ยังคงขยายตัวได้ดี ครึ่งปีแรกมีนักท่องเที่ยวแล้ว 10.5 ล้านคน
สำหรับความเสี่ยงที่สำคัญในระยะต่อไป คือ รัฐบาลต้องเร่งเบิกจ่ายเงินตามแผนบริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักธุรกิจและนักลงทุน เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ ให้กลับมาผลิตให้ได้ภายในปีนี้ และเพื่อทำให้การส่งออกดีขึ้น รวมถึงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีด้วย
