นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวถึงกรณีการขับขี่รถเร็วและเหตุการณ์ขับรถตกจากทางด่วน ว่า ด้านความปลอดภัยของผู้ใช้ทางพิเศษ เป็นหัวใจเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงคมนาคม ซึ่ง กทพ.มุ่งเน้น และให้ความสำคัญ ดังนั้น จุดเสี่ยงต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ กทพ.ได้ดำเนินการปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัย อาทิ การติดสัญญาณไฟ จราจร การปรับพื้นหน้าผิวจราจรเพื่อเพิ่มความฝืด และลดระยะเบรก รวมถึงตีเส้นเตือนสั่นสะเทือนบนผิวถนน และตีเส้นให้เห็นชัดเจนในเส้นทางเสี่ยง
ทั้งนี้ จะมีการนำอุปกรณ์กันกระแทกมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท มาติดตั้งบนทางพิเศษ ในจุดเสี่ยงที่เป็นแยกตัววายบนทางพิเศษมีประมาณ 10 จุด ประกอบด้วย บนทางด่วนขั้นที่ 1 จำนวน 2 จุด ด่วนฉลองรัช 5จุด และด่วนบูรพาวิถี 3 จุด และการทางพิเศษฯ จะเริ่มดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม นายอัยยณัฐ ฝากถึงประชาชนที่ใช้ทางพิเศษ ว่า แม้ทางพิเศษมีโครงสร้างมาตราฐานความปลอดภัยระดับสากล แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการขับขี่ของผู้ใช้รถด้วย ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และความเร็วตามที่กฏหมายกำหนด เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เกิดจากการใช้ความเร็วทั้งสิ้น ดังนั้น หากผู้ใช้ปฏิบัติตามกฎจราจร ก็จะลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งนี้ จะมีการนำอุปกรณ์กันกระแทกมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท มาติดตั้งบนทางพิเศษ ในจุดเสี่ยงที่เป็นแยกตัววายบนทางพิเศษมีประมาณ 10 จุด ประกอบด้วย บนทางด่วนขั้นที่ 1 จำนวน 2 จุด ด่วนฉลองรัช 5จุด และด่วนบูรพาวิถี 3 จุด และการทางพิเศษฯ จะเริ่มดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม นายอัยยณัฐ ฝากถึงประชาชนที่ใช้ทางพิเศษ ว่า แม้ทางพิเศษมีโครงสร้างมาตราฐานความปลอดภัยระดับสากล แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากการขับขี่ของผู้ใช้รถด้วย ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และความเร็วตามที่กฏหมายกำหนด เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เกิดจากการใช้ความเร็วทั้งสิ้น ดังนั้น หากผู้ใช้ปฏิบัติตามกฎจราจร ก็จะลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
