เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากการนำข้าวไปจำนำในโครงการรับจำนำข้าวนาปีและนาปรังของรัฐบาล ที่ จ.สกลนคร ทยอยเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ หลังพบการทุจริต และตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้แล้ว 3 ราย โดยมีผู้เสียหายไม่น้อยกว่า 140 ราย ทำให้รัฐสูญเสียรายได้เกือบ 2 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา สบ 10 และรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เมื่อวานนี้พบอุปสรรคในการเอาผิดกับผู้ต้องหาหลายอย่าง เนื่องจากเป็นการสมยอมของเกษตรกรให้มีการสวมสิทธิ์ เพราะจำนำข้าวกับนายทุนไม่ต้องเดินทางและเสียค่าขนส่ง พร้อมรับเงินสดได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้จากเกษตรกรจนถึงขณะนี้คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายใน 15 วัน และอาจได้ผู้ต้องหาเพิ่มเติมจาก 3 รายแรก หลังพบว่ามีการร่วมมือกันทุจริตระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและนายทุนในพื้นที่
ทางด้านเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า นำข้าวไปจำนำกับโรงสี แต่ถูกกดราคา เพราะข้าวหัก ไม่เต็มเมล็ด และกว่าจะให้กลับมารับใบประทวนไปขึ้นเงินก็ต้องรอไปอีก 1 สัปดาห์ แต่เมื่อมารับใบประทวนก็ถูกหักค่าความชื้นเพิ่มขึ้นอีก และมารู้ในภายหลังว่าถูกโกงไปให้ผู้อื่นสวมสิทธิ์
ขณะที่ ตชด.234 มุกดาหาร ตรวจยึดข้าวสารลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 25 ถุง น้ำหนัก 1,250 กิโลกรัม ซึ่งถูกทิ้งไว้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านว่านน้อย อ.ว่านใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นของชาวบ้านที่ลักลอบนำเข้ามาเพื่อสวมสิทธิ์ไปจำนำข้าวนาปี หรืออาจนำไปขายให้กับโรงสี เพื่อผสมกับข้าวของไทย ก่อนนำออกจำหน่ายเพื่อให้ได้ราคาที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ดีเอสไออยู่ระหว่างการสอบสวนเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าภายใน 15 วัน จะสามารถสรุปคดีนี้ได้
สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา สบ 10 และรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เมื่อวานนี้พบอุปสรรคในการเอาผิดกับผู้ต้องหาหลายอย่าง เนื่องจากเป็นการสมยอมของเกษตรกรให้มีการสวมสิทธิ์ เพราะจำนำข้าวกับนายทุนไม่ต้องเดินทางและเสียค่าขนส่ง พร้อมรับเงินสดได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้จากเกษตรกรจนถึงขณะนี้คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายใน 15 วัน และอาจได้ผู้ต้องหาเพิ่มเติมจาก 3 รายแรก หลังพบว่ามีการร่วมมือกันทุจริตระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐและนายทุนในพื้นที่
ทางด้านเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า นำข้าวไปจำนำกับโรงสี แต่ถูกกดราคา เพราะข้าวหัก ไม่เต็มเมล็ด และกว่าจะให้กลับมารับใบประทวนไปขึ้นเงินก็ต้องรอไปอีก 1 สัปดาห์ แต่เมื่อมารับใบประทวนก็ถูกหักค่าความชื้นเพิ่มขึ้นอีก และมารู้ในภายหลังว่าถูกโกงไปให้ผู้อื่นสวมสิทธิ์
ขณะที่ ตชด.234 มุกดาหาร ตรวจยึดข้าวสารลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 25 ถุง น้ำหนัก 1,250 กิโลกรัม ซึ่งถูกทิ้งไว้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านว่านน้อย อ.ว่านใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นของชาวบ้านที่ลักลอบนำเข้ามาเพื่อสวมสิทธิ์ไปจำนำข้าวนาปี หรืออาจนำไปขายให้กับโรงสี เพื่อผสมกับข้าวของไทย ก่อนนำออกจำหน่ายเพื่อให้ได้ราคาที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ดีเอสไออยู่ระหว่างการสอบสวนเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้อง คาดว่าภายใน 15 วัน จะสามารถสรุปคดีนี้ได้
