นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้มีพายุก่อตัวขึ้นทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ เป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง ชื่อ ซาวลา อาจพัฒนาเป็นพายุไต้ฝุ่น ทิศทางเคลื่อนตัวไปทางเหนือ คาดพัดผ่านเกาะไต้หวันเข้าสู่ประเทศจีน รวมทั้งมีพายุโซนร้อนอีกลูกอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ชื่อ ดอมเรย ทิศทางเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก คาดว่าพัดผ่านประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพายุทั้ง 2 ลูกนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย ส่วนที่ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นในขณะนี้คือ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรงขึ้น
ขณะที่ ศ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาภัยพิบัติและข้อมูลสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า พายุที่กำลังก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้ง 2 ลูก จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่หลังจากกลางเดือนสิงหาคม - ตุลาคม เป็นช่วงที่พายุอาจเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้ เพราะทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุ อาศัยปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อน ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นายสมชาย และ ศ.ธนวัฒน์ ยังแนะนำว่า เดือนสิงหาคม - ตุลาคม เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังพายุอย่างใกล้ชิด เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดพายุขึ้นทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ หรือทะเลจีนใต้ และเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเกิดฝนตกหนักได้มาก ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
ขณะที่ ศ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาภัยพิบัติและข้อมูลสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า พายุที่กำลังก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้ง 2 ลูก จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่หลังจากกลางเดือนสิงหาคม - ตุลาคม เป็นช่วงที่พายุอาจเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้ เพราะทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุ อาศัยปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อน ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นายสมชาย และ ศ.ธนวัฒน์ ยังแนะนำว่า เดือนสิงหาคม - ตุลาคม เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังพายุอย่างใกล้ชิด เพราะมีโอกาสสูงที่จะเกิดพายุขึ้นทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ หรือทะเลจีนใต้ และเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเกิดฝนตกหนักได้มาก ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
