นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ดีเอสไอมีหนังสือแจ้งไปยัง 13 หน่วยงานของไทย ที่จัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย จีที 200 และอัลฟา 6 ให้ตรวจสอบความผิดปกติของเครื่อง แล้วรายงานผลมาที่ดีเอสไอ หากพบความผิดปกติ เพื่อที่จะได้ดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้มีเพียง 1 หน่วยงานที่มีหนังสือตอบกลับมา เพื่อหารือแนวทางในการปฏิบัติ โดยดีเอสไอเตรียมเชิญตัวแทนจาก 13 หน่วยงาน มาให้ข้อมูลภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อจะดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกง กับบริษัทเอกชนที่เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องดังกล่าว พร้อมเตรียมนำรายงานผลการตรวจพิสูจน์ประสิทธิภาพของเครื่อง ที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค ได้ทำรายงานเอาไว้ มาประกอบสำนวนการสอบสวนด้วย
พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีความผิดเกี่ยวกับการฮั้วประมูลในคดีนี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพิ่มเติม ซึ่งพบว่ามี 6 บริษัทเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องในการสอบสวนครั้งที่ผ่านมา ดีเอสไอพบข้อสงสัยใน 2 กรณี คือ หน่วยงานจัดซื้อในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง และพฤติกรรมของกลุ่มบริษัทที่เสนอขาย และขายเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย มีพฤติกรรมทุจริตในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และดีเอสไอได้ส่งเรื่องที่เกี่ยวข้องให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว
พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีความผิดเกี่ยวกับการฮั้วประมูลในคดีนี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพิ่มเติม ซึ่งพบว่ามี 6 บริษัทเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องในการสอบสวนครั้งที่ผ่านมา ดีเอสไอพบข้อสงสัยใน 2 กรณี คือ หน่วยงานจัดซื้อในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง และพฤติกรรมของกลุ่มบริษัทที่เสนอขาย และขายเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย มีพฤติกรรมทุจริตในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และดีเอสไอได้ส่งเรื่องที่เกี่ยวข้องให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว
