นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) และกรมวิชาการเกษตร ร่วมกันดำเนินมาตรการปราบปรามปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรปลอม โดยจะเน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวหมดไป
สำหรับแนวทางการปฏิบัติ มี 3 แนวทางหลัก คือ 1. เฝ้าระวัง โดยวางเป้าหมายไปที่ร้านค้า โรงงาน และผู้ผลิต 2. บูรณาการกฎหมาย 3 หน่วยงาน สำหรับเอาผิดผู้ลักลอบผลิต หรือค้าปุ๋ยและสารเคมีปลอม ซึ่งจะใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มพ่อค้าเร่ที่รับสินค้าไปจำหน่ายต่อยังเกษตรกร จะมีความผิดทั้งในส่วนของ พ.ร.บ.ขายตรง และตลาดแบบตรง ที่ สคบ.เป็นผู้ดูแล และ พ.ร.บ.ปุ๋ย ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ดูแล และ 3. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับเกษตรกรเกี่ยวกับปุ๋ยและสารเคมีปลอม วิธีการเลือกซื้อ และใช้อย่างถูกต้อง รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรซื้อสินค้าดังกล่าวจากร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ หรือ คิวชอป (Q-Shop) เนื่องจากเป็นร้านค้าที่ผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร
สำหรับแนวทางการปฏิบัติ มี 3 แนวทางหลัก คือ 1. เฝ้าระวัง โดยวางเป้าหมายไปที่ร้านค้า โรงงาน และผู้ผลิต 2. บูรณาการกฎหมาย 3 หน่วยงาน สำหรับเอาผิดผู้ลักลอบผลิต หรือค้าปุ๋ยและสารเคมีปลอม ซึ่งจะใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มพ่อค้าเร่ที่รับสินค้าไปจำหน่ายต่อยังเกษตรกร จะมีความผิดทั้งในส่วนของ พ.ร.บ.ขายตรง และตลาดแบบตรง ที่ สคบ.เป็นผู้ดูแล และ พ.ร.บ.ปุ๋ย ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ดูแล และ 3. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับเกษตรกรเกี่ยวกับปุ๋ยและสารเคมีปลอม วิธีการเลือกซื้อ และใช้อย่างถูกต้อง รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรซื้อสินค้าดังกล่าวจากร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ หรือ คิวชอป (Q-Shop) เนื่องจากเป็นร้านค้าที่ผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร