นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำของ กฟผ.มีปริมาณทั้งหมด 34,012 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุ
ทั้งนี้ สภาพอากาศยังไม่มีปัจจัย หรือตัวแปรใด ที่จะทำให้เกิดฝนตกหนัก ทำให้อ่างเก็บน้ำยังมีช่องว่างอีกปริมาณมาก และมีความพร้อมที่จะลดการระบายน้ำ หากมีสภาพน้ำท่วมด้านล่าง อาทิ เขื่อนภูมิพล ขณะนี้มีปริมาตรน้ำ 6,124 ล้านลูกบาศก์เมตร มีช่องว่างรองรับน้ำได้อีก 7,338 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำ 4,139 ล้านลูกบาศก์เมตร มีช่องว่างรองรับน้ำได้อีก 5,371 ล้านลูกบาศก์เมตร
ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มสถานการณ์น้ำปีนี้คงจะไม่มากเหมือนเช่นปีที่แล้ว และยืนยันว่า การระบายน้ำในระยะนี้ คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ได้พิจารณาให้ระบายน้ำตามความต้องการใช้น้ำเท่าที่จำเป็น และหากดูในแง่ของปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับการใช้น้ำช่วงฤดูแล้งปีหน้าแล้ว คาดว่าเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ จะมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้งานได้รวมกันประมาณ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการเกษตรช่วงหน้าแล้ง ปี 2556 ที่มีความต้องการใช้น้ำโดยเฉลี่ย 7,000-8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร และกรณีที่จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่าที่คาดการณ์ เขื่อนทั้งสองก็ยังมีช่องว่างมากพอที่จะรับได้ และจะทำให้มีน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในปีหน้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ สภาพอากาศยังไม่มีปัจจัย หรือตัวแปรใด ที่จะทำให้เกิดฝนตกหนัก ทำให้อ่างเก็บน้ำยังมีช่องว่างอีกปริมาณมาก และมีความพร้อมที่จะลดการระบายน้ำ หากมีสภาพน้ำท่วมด้านล่าง อาทิ เขื่อนภูมิพล ขณะนี้มีปริมาตรน้ำ 6,124 ล้านลูกบาศก์เมตร มีช่องว่างรองรับน้ำได้อีก 7,338 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำ 4,139 ล้านลูกบาศก์เมตร มีช่องว่างรองรับน้ำได้อีก 5,371 ล้านลูกบาศก์เมตร
ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มสถานการณ์น้ำปีนี้คงจะไม่มากเหมือนเช่นปีที่แล้ว และยืนยันว่า การระบายน้ำในระยะนี้ คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ได้พิจารณาให้ระบายน้ำตามความต้องการใช้น้ำเท่าที่จำเป็น และหากดูในแง่ของปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับการใช้น้ำช่วงฤดูแล้งปีหน้าแล้ว คาดว่าเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ จะมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้งานได้รวมกันประมาณ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการเกษตรช่วงหน้าแล้ง ปี 2556 ที่มีความต้องการใช้น้ำโดยเฉลี่ย 7,000-8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร และกรณีที่จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากกว่าที่คาดการณ์ เขื่อนทั้งสองก็ยังมีช่องว่างมากพอที่จะรับได้ และจะทำให้มีน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในปีหน้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
