นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุในการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 5 หน่วยงาน คือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมพัฒนาที่ดิน กรมสรรพากร กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า ทั้งหมดมีความเห็นร่วมกันว่า จะสนธิกำลังบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากการกระทำความผิดของคนต่างด้าวถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการถือหุ้นแทน หรือ นอมินี ทั้งในลักษณะการเข้าไปถือครองที่ดิน และการประกอบธุรกิจต้องห้ามของชาวต่างด้าว รวมถึงแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ การเรียกค่าคุ้มครอง และการเข้าไปครอบงำการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวด้วยกัน
ทั้งนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีข้อมูลเกี่ยวกับนอมินีของต่างด้าวในหลายกรณี ที่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเชิงนโยบาย เพื่อแบ่งหน้าที่ที่ชัดเจน หลังดีเอสไอรับคดีที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวเป็น 1 ใน 9 คดี แนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษที่เพิ่มขึ้นใหม่
ทั้งนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีข้อมูลเกี่ยวกับนอมินีของต่างด้าวในหลายกรณี ที่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเชิงนโยบาย เพื่อแบ่งหน้าที่ที่ชัดเจน หลังดีเอสไอรับคดีที่เกี่ยวกับคนต่างด้าวเป็น 1 ใน 9 คดี แนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษที่เพิ่มขึ้นใหม่