นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวในงานสัมมนา ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญ และสื่อมวลชน ว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องตามมาตรา 68 ที่ผู้ถูกร้องได้จัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ซึ่งมีผลให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 ทางตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อมูลของผู้ร้องสามารถนำไปประกอบการพิจารณา ซึ่งผลการพิจารณาต้องเป็นไปตามกระบวนการ ว่าจะมีหลักฐานอะไรเพิ่มเติม และสามารถพิสูจน์ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายวสันต์ ยังกล่าวอีกว่า หากประธานรัฐสภามีการฮั้วกับ ส.ส.ร. โดยในร่างรัฐธรรมนูญ มีการแตะหมวด 1 และ 2 หรือหมวดของสถาบัน ซึ่งประธานรัฐสภาเป็นผู้ชี้ขาดเพียงผู้เดียวนั้น อาจนำไปสู่การล้มล้างการปกครองทันที
อย่างไรก็ตาม นายวสันต์ ยังกล่าวอีกว่า หากประธานรัฐสภามีการฮั้วกับ ส.ส.ร. โดยในร่างรัฐธรรมนูญ มีการแตะหมวด 1 และ 2 หรือหมวดของสถาบัน ซึ่งประธานรัฐสภาเป็นผู้ชี้ขาดเพียงผู้เดียวนั้น อาจนำไปสู่การล้มล้างการปกครองทันที