นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและตัวแทนจากคลินิก โรงพยาบาลเอกชน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 300 คน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ ในการพัฒนามาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพบริการและความปลอดภัย เมื่อประเทศเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายวิทยา กล่าวว่า รูปแบบบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลในขณะนี้ มีแนวโน้มเป็นบริการเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อเป็นการรองรับการค้าเสรีด้านบริการสุขภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กระทรวงสาธารณสุข จึงต้องเตรียมความพร้อมทั้งโรงพยาบาลสังกัดภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคเอกชน ซึ่งประกอบด้วยคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน ทั่วประเทศมีทั้งหมด 19,149 แห่ง ในจำนวนนี้อยู่ในกรุงเทพมหานคร 4,161 แห่ง ซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 อย่างเคร่งครัด ห้ามโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ซึ่งจะเป็นการสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ในการเป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหากพบคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนรายใด เปิดบริการก่อนได้รับใบอนุญาต หรือโฆษณาอวดอ้างเกินจริง จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นายวิทยา กล่าวว่า รูปแบบบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลในขณะนี้ มีแนวโน้มเป็นบริการเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อเป็นการรองรับการค้าเสรีด้านบริการสุขภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กระทรวงสาธารณสุข จึงต้องเตรียมความพร้อมทั้งโรงพยาบาลสังกัดภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคเอกชน ซึ่งประกอบด้วยคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน ทั่วประเทศมีทั้งหมด 19,149 แห่ง ในจำนวนนี้อยู่ในกรุงเทพมหานคร 4,161 แห่ง ซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 อย่างเคร่งครัด ห้ามโฆษณาโอ้อวดเกินจริง ซึ่งจะเป็นการสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ในการเป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหากพบคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนรายใด เปิดบริการก่อนได้รับใบอนุญาต หรือโฆษณาอวดอ้างเกินจริง จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ