เหล่านักโบราณคดีวิทยาในบัลแกเรีย ขุดพบโครงกระดูก 2 โครงในยุคกลาง ในสภาพที่บริเวณหน้าอกถูกเสียบด้วยหมุดโลหะ ตามความเชื่อที่ว่าเพื่อสะกดศพเหล่านั้นไม่ให้กลายร่างเป็นแวมไพร์ หัวหน้าศูนย์พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เผยเมื่อวันอังคาร(5)
ตามความเชื่อของพวกนอกศาสนา ผู้ที่ถูกสังคมมองว่าเป็นคนเลวเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ อาจกลายร่างเป็นผีดูดเลือดหลังจากตายไปแล้ว หากไม่มีการตอกหน้าอกด้วยหมุดโลหะหรือไม้ก่อนนำไปฝัง
นายโบชิดาร์ ดิมิทรอฟ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติของบัลแกเรีย เปิดเผยหลังจากพบโครงกระดูกดังกล่าวที่เมืองโซโซโพล แถบทะเลดำ ว่า "สภาพของโครงกระดูก 2 โครงถูกแทงด้วยหมุดเป็นสิ่งพบได้ทั่วไปในหมู่บ้านบางแห่งของบัลแกเรียจนถึงช่วง 10 ปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20"
นักประวัติศาสตร์รายนี้บอกต่อว่าชาวบ้านยังมีความเชื่อด้วยว่าหมุดดังกล่าว จะช่วยตรึงผู้ตายให้อยู่ในหลุมศพและไม่ลุกออกมาทำร้ายผู้คนในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตามเขาบอกว่ากรณีนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติปกติในบัลแกเรียและพบโครงกระดูกที่ถูกหมุดปักที่หน้าอกแล้วประมาณ 100 โครง
ตามความเชื่อของพวกนอกศาสนา ผู้ที่ถูกสังคมมองว่าเป็นคนเลวเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ อาจกลายร่างเป็นผีดูดเลือดหลังจากตายไปแล้ว หากไม่มีการตอกหน้าอกด้วยหมุดโลหะหรือไม้ก่อนนำไปฝัง
นายโบชิดาร์ ดิมิทรอฟ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติของบัลแกเรีย เปิดเผยหลังจากพบโครงกระดูกดังกล่าวที่เมืองโซโซโพล แถบทะเลดำ ว่า "สภาพของโครงกระดูก 2 โครงถูกแทงด้วยหมุดเป็นสิ่งพบได้ทั่วไปในหมู่บ้านบางแห่งของบัลแกเรียจนถึงช่วง 10 ปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20"
นักประวัติศาสตร์รายนี้บอกต่อว่าชาวบ้านยังมีความเชื่อด้วยว่าหมุดดังกล่าว จะช่วยตรึงผู้ตายให้อยู่ในหลุมศพและไม่ลุกออกมาทำร้ายผู้คนในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตามเขาบอกว่ากรณีนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติปกติในบัลแกเรียและพบโครงกระดูกที่ถูกหมุดปักที่หน้าอกแล้วประมาณ 100 โครง