นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum on East Asia 2012 (WEF) ว่า ในการประชุมที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมประชุม ไม่ได้มีการถามถึงร่างพระราชบัญญัติปรองดอง และตนเองยอมรับว่าไม่ค่อยรู้เรื่องการเมือง แต่หากการเมืองมีเสถียรภาพที่ดี ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลเศรษฐกิจของประเทศ จึงอยากให้ค่อยๆ ปรึกษาปัญหากันเพื่อประคับประคองสถานการณ์ และให้เศรษฐกิจไปได้ แต่หากมีปัญหาด้านการเมืองเกิดขึ้นนั้น ภาคเศรษฐกิจจะต้องดำเนินการให้มีเสถียรภาพมากที่สุด เพื่อป้องกันผลที่จะมากระทบ โดยจะดูแลทั้ง เสถียรภาพของราคาสินค้า อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย เพื่อประคองให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้
ขณะเดียวกันนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญในขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว ซึ่งเรื่องที่เร่งด่วนที่จะต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี มีความคืบหน้าไปแล้ว ต่อจากนี้ไปคงต้องทำงานหนักมากขึ้น
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ ผู้นำแต่ละประเทศต่างมุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมั่นใจว่า การรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะไม่มีปัญหาแน่นอน เนื่องจากอาเซียนได้มีการร่วมมือกันมากว่า 40 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ผู้นำส่วนใหญ่มีการแสดงความตั้งใจที่ชัดเจน ในการร่วมมือกัน มากกว่าการประชุมครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนมีความมั่นใจมากขึ้นในการลงทุน และนอกจากการเติบโตไปพร้อมกันแล้ว ยังจะมุ่งเน้นการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงกันอีกด้วย
นายกิตติรัตน์ กล่าวยืนยันว่า การเข้าร่วม AEC นั้น จะไม่มีการใช้เงินสกุลเดียวกันแน่นอน เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดในลักษณะเดียวกับกลุ่มยูโรโซน
ขณะเดียวกันนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญในขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว ซึ่งเรื่องที่เร่งด่วนที่จะต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี มีความคืบหน้าไปแล้ว ต่อจากนี้ไปคงต้องทำงานหนักมากขึ้น
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ ผู้นำแต่ละประเทศต่างมุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมั่นใจว่า การรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะไม่มีปัญหาแน่นอน เนื่องจากอาเซียนได้มีการร่วมมือกันมากว่า 40 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ผู้นำส่วนใหญ่มีการแสดงความตั้งใจที่ชัดเจน ในการร่วมมือกัน มากกว่าการประชุมครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนมีความมั่นใจมากขึ้นในการลงทุน และนอกจากการเติบโตไปพร้อมกันแล้ว ยังจะมุ่งเน้นการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงกันอีกด้วย
นายกิตติรัตน์ กล่าวยืนยันว่า การเข้าร่วม AEC นั้น จะไม่มีการใช้เงินสกุลเดียวกันแน่นอน เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดในลักษณะเดียวกับกลุ่มยูโรโซน
