นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการดำเนินการขุดลอกคูคลองในเขตพื้นที่เร่งด่วนซึ่งเคยถูกน้ำท่วม ผลการดำเนินงานคืบหน้าไปแล้ว 66 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเขตพื้นที่ที่ไม่เร่งด่วนได้ดำเนินการไปแล้ว 52 เปอร์เซ็นต์
สำหรับการลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่เร่งด่วน ถนนสายหลัก ดำเนินการไปแล้ว 62 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นที่ทั่วไปตามชุมชนดำเนินการประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม การขุดลอกคูคลอง และท่อระบายน้ำนั้น กทม.จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายนนี้
ส่วนกรณีบ่อขยะของเอกชนที่ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจ สน.ฉลองกรุง ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทาง กทม.ได้ส่งสำนักงานอนามัย เข้าไปตรวจวัดสารพิษในอากาศ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีค่ามลพิษสูงเกินมาตรฐาน และเมื่อวันที่ 12-17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมได้เข้าตรวจสภาพอากาศอีกครั้ง พบว่ามีค่ามลพิษไม่เกินมาตรฐานแล้ว โดยหลังจากนี้ กทม.จะตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนดมาตรการเข้าไปดูแลในพื้นที่ โดยการปิดหน้าดินให้มีความหนา เพื่อป้องกันขยะติดไฟ และป้องกันการหาเศษโลหะ และการจัดการน้ำเสียที่ไหลออกมาจากบ่อขยะ รวมทั้งล้อมรั้วพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องกันการบุกรุกทิ้งขยะเพิ่ม และสืบหาสาเหตุที่แท้จริงจากการเกิดมลพิษในครั้งนี้
สำหรับการลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่เร่งด่วน ถนนสายหลัก ดำเนินการไปแล้ว 62 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นที่ทั่วไปตามชุมชนดำเนินการประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม การขุดลอกคูคลอง และท่อระบายน้ำนั้น กทม.จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในเดือนมิถุนายนนี้
ส่วนกรณีบ่อขยะของเอกชนที่ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ข้าราชการตำรวจ สน.ฉลองกรุง ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทาง กทม.ได้ส่งสำนักงานอนามัย เข้าไปตรวจวัดสารพิษในอากาศ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีค่ามลพิษสูงเกินมาตรฐาน และเมื่อวันที่ 12-17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมได้เข้าตรวจสภาพอากาศอีกครั้ง พบว่ามีค่ามลพิษไม่เกินมาตรฐานแล้ว โดยหลังจากนี้ กทม.จะตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนดมาตรการเข้าไปดูแลในพื้นที่ โดยการปิดหน้าดินให้มีความหนา เพื่อป้องกันขยะติดไฟ และป้องกันการหาเศษโลหะ และการจัดการน้ำเสียที่ไหลออกมาจากบ่อขยะ รวมทั้งล้อมรั้วพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องกันการบุกรุกทิ้งขยะเพิ่ม และสืบหาสาเหตุที่แท้จริงจากการเกิดมลพิษในครั้งนี้
