นายวิเชียร พวงลำเจียก อุปนายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวนาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง ขณะนี้เก็บเกี่ยวแล้วประมาณ 2 เดือน ยังไม่ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และยังไม่ได้รับใบประทวน
ทั้งนี้ ชาวนาที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ต้องใช้เงินลงทุนต่อ เช่น จ่ายค่ารถเกี่ยว รถขนส่งข้าว ซึ่งค้างจ่ายนาน 2 เดือน รวมทั้งเงินในการซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ย เพื่อลงทุนปลูกข้าวต่อในฤดูกาลต่อไป จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งเข้ามาดูแล โดยเฉพาะการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำให้ทั่วถึง
ด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ยืนยันว่า ตั้งแต่เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 290,000 ราย ปริมาณข้าวเข้าโครงการ 4,400,000 ตัน จ่ายเงินแล้วทั้งสิ้น 56,900 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่า จนถึงสิ้นสุดโครงการ วันที่ 15 กันยายน ปีนี้ จะมีข้าวเข้าร่วมโครงการ 7,500,000 ตัน น่าจะใช้เงินในการรับจำนำข้าว กว่า 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ชาวนาที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ต้องใช้เงินลงทุนต่อ เช่น จ่ายค่ารถเกี่ยว รถขนส่งข้าว ซึ่งค้างจ่ายนาน 2 เดือน รวมทั้งเงินในการซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ย เพื่อลงทุนปลูกข้าวต่อในฤดูกาลต่อไป จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งเข้ามาดูแล โดยเฉพาะการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำให้ทั่วถึง
ด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ยืนยันว่า ตั้งแต่เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 290,000 ราย ปริมาณข้าวเข้าโครงการ 4,400,000 ตัน จ่ายเงินแล้วทั้งสิ้น 56,900 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่า จนถึงสิ้นสุดโครงการ วันที่ 15 กันยายน ปีนี้ จะมีข้าวเข้าร่วมโครงการ 7,500,000 ตัน น่าจะใช้เงินในการรับจำนำข้าว กว่า 100,000 ล้านบาท