พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังเรือนจำอำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าสอบปากคำและตรวจสอบลายนิ้วมือของ นายอานนท์ อุ่นวงศ์ แฝดผู้น้องที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำในนาม นายเอนก อุ่นวงศ์ แฝดผู้พี่
พล.ต.ท.จรัมพร เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายอานนท์ ที่อยู่ในเรือนจำนั้น ทำให้ทราบว่าในขั้นตอนต่างๆ นั้น นายอานนท์ มีการแสดงตัวเป็นนายเอนก มาตลอด ตั้งแต่การถูกจับใบขับขี่ ก็มีการใช้บัตรประกันสังคมของคนชื่อ นายเอนก อุ่นวงศ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เดินทางไปรับตัวที่ สภ.เมืองปทุมธานี มีการใช้ชื่อ เอนก และในการสอบปากคำใช้คำว่า เอนก อุ่นวงศ์ จนถึงขั้นตอนการฝากขังก็ใช้ชื่อ เอนก อุ่นวงศ์ แม้แต่เมื่อเข้ามาในเรือนจำ ยังใช้ชื่อ เอนก อุ่นวงศ์ มาโดยตลอด ซึ่ง นายอานนท์เอง อ้างว่า มีการโต้แย้งตั้งแต่ในชั้นจับกุม แต่เขาเห็นว่า หลักฐานคือบัตรประกันสังคมในตัวเขาเป็น นายเอนก เขาก็เลยเซ็นชื่อและรับมาโดยตลอดว่า เป็น เอนก ส่วนที่ไม่มีการโต้แย้งตั้งแต่แรกนั้น เขาบอกว่า เพราะคิดว่าเมื่อมีการต่อสู้คดีในชั้นศาลจะทำให้เขาหลุดพ้นจากคดีได้ ส่วนการตรวจสอบลายนิ้วมือของ นายอานนท์ ในเบื้องต้นนี้พบว่า ลายนิ้วมือมีข้อบ่งชี้ถึง 15 จุด ว่า ลายนิ้วมือของผู้ที่อยู่ในเรือนจำนั้นคือ นายอานนท์ ไม่ใช่ นายเอนก และเมื่อผลออกมาแบบนี้ เราต้องดึงเขาออกจากการจองจำเพราะว่า ในเรื่องของอิสรภาพนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยหลักการแล้วถ้าหากมีการจับผิดตัวแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย จะต้องร่วมมือกัน นำเขาออกจากการจองจำโดยเร็วที่สุด ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ คงเป็นขั้นตอนของการพิจารณาคดีใหม่ หรือ ถ้ามีการยื่นฎีกา อาจจะมีการส่งมายังศาลชั้นต้นไต่สวนก็เป็นได้ แล้วแต่ว่าจะดำเนินการในขั้นตอนไหน
พล.ต.ท.จรัมพร เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายอานนท์ ที่อยู่ในเรือนจำนั้น ทำให้ทราบว่าในขั้นตอนต่างๆ นั้น นายอานนท์ มีการแสดงตัวเป็นนายเอนก มาตลอด ตั้งแต่การถูกจับใบขับขี่ ก็มีการใช้บัตรประกันสังคมของคนชื่อ นายเอนก อุ่นวงศ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เดินทางไปรับตัวที่ สภ.เมืองปทุมธานี มีการใช้ชื่อ เอนก และในการสอบปากคำใช้คำว่า เอนก อุ่นวงศ์ จนถึงขั้นตอนการฝากขังก็ใช้ชื่อ เอนก อุ่นวงศ์ แม้แต่เมื่อเข้ามาในเรือนจำ ยังใช้ชื่อ เอนก อุ่นวงศ์ มาโดยตลอด ซึ่ง นายอานนท์เอง อ้างว่า มีการโต้แย้งตั้งแต่ในชั้นจับกุม แต่เขาเห็นว่า หลักฐานคือบัตรประกันสังคมในตัวเขาเป็น นายเอนก เขาก็เลยเซ็นชื่อและรับมาโดยตลอดว่า เป็น เอนก ส่วนที่ไม่มีการโต้แย้งตั้งแต่แรกนั้น เขาบอกว่า เพราะคิดว่าเมื่อมีการต่อสู้คดีในชั้นศาลจะทำให้เขาหลุดพ้นจากคดีได้ ส่วนการตรวจสอบลายนิ้วมือของ นายอานนท์ ในเบื้องต้นนี้พบว่า ลายนิ้วมือมีข้อบ่งชี้ถึง 15 จุด ว่า ลายนิ้วมือของผู้ที่อยู่ในเรือนจำนั้นคือ นายอานนท์ ไม่ใช่ นายเอนก และเมื่อผลออกมาแบบนี้ เราต้องดึงเขาออกจากการจองจำเพราะว่า ในเรื่องของอิสรภาพนั้นเป็นเรื่องสำคัญ โดยหลักการแล้วถ้าหากมีการจับผิดตัวแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย จะต้องร่วมมือกัน นำเขาออกจากการจองจำโดยเร็วที่สุด ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ คงเป็นขั้นตอนของการพิจารณาคดีใหม่ หรือ ถ้ามีการยื่นฎีกา อาจจะมีการส่งมายังศาลชั้นต้นไต่สวนก็เป็นได้ แล้วแต่ว่าจะดำเนินการในขั้นตอนไหน