คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ลงมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวานนี้ โดยสั่งให้ซูดานและซูดานใต้ยุติความขัดแย้งต่อกันภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมกับถอนทหารแต่ละฝ่ายกลับสู่ดินแดนของตน และหากไม่ยุติ จะต้องประสบกับมาตรการการคว่ำบาตร
ขณะที่จีน และรัสเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ต่อต้านมาตรการคว่ำบาตร ได้หันมาร่วมกับนานาชาติ เรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งบริเวณพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ
ทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงฯ 15 ชาติ ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้อำนาจทางการทูตต่อสหภาพแอฟริกาในการหาทางยุติความรุนแรงระหว่างซูดาน และซูดานใต้ และให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีการเริ่มเจรจาสันติภาพ
นายอัล โอเบอิด เมอร์รูห์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศซูดาน กล่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลซูดานกำลังแสวงหาสันติภาพกับซูดานใต้ และหวังว่ารัฐบาลซูดานใต้จะตอบสนองในทางที่ดีต่อมติของคณะมนตรีฯ และสหภาพแอฟริกัน เพื่อยุติความขัดแย้งกับซูดาน
ขณะที่จีน และรัสเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ต่อต้านมาตรการคว่ำบาตร ได้หันมาร่วมกับนานาชาติ เรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งบริเวณพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ
ทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงฯ 15 ชาติ ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้อำนาจทางการทูตต่อสหภาพแอฟริกาในการหาทางยุติความรุนแรงระหว่างซูดาน และซูดานใต้ และให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีการเริ่มเจรจาสันติภาพ
นายอัล โอเบอิด เมอร์รูห์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศซูดาน กล่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลซูดานกำลังแสวงหาสันติภาพกับซูดานใต้ และหวังว่ารัฐบาลซูดานใต้จะตอบสนองในทางที่ดีต่อมติของคณะมนตรีฯ และสหภาพแอฟริกัน เพื่อยุติความขัดแย้งกับซูดาน