นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีรายงานการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสั่งเร่งรัดแก้ปัญหาหลายด้าน อาทิ เศรษฐกิจ เป็นปัจจัยเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน ให้หน่วยงานลงพื้นที่แก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่มีการขู่เรียกรับผลประโยชน์จากประชาชนที่ได้รับเงินเยียวยา ควบคู่กับการแก้ปัญหาแทรกซ้อน เช่น การค้าของเถื่อน และยาเสพติด ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำกรณีน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีเพียงร้อยละ 26 จึงให้กรมชลประทานรายงาน กบอ. เพื่อกำหนดมาตรการระบายและกักเก็บน้ำอย่างเป็นระบบ โดยต้องรายงานถึงนายกรัฐมนตรีทุกสัปดาห์ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชน ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ และเพื่อการเกษตร
ขณะเดียวกัน ให้หน่วยงานลงพื้นที่แก้ปัญหาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ที่มีการขู่เรียกรับผลประโยชน์จากประชาชนที่ได้รับเงินเยียวยา ควบคู่กับการแก้ปัญหาแทรกซ้อน เช่น การค้าของเถื่อน และยาเสพติด ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำกรณีน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีเพียงร้อยละ 26 จึงให้กรมชลประทานรายงาน กบอ. เพื่อกำหนดมาตรการระบายและกักเก็บน้ำอย่างเป็นระบบ โดยต้องรายงานถึงนายกรัฐมนตรีทุกสัปดาห์ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชน ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ และเพื่อการเกษตร