นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลาง จ.นครศรีธรรมราช เดินทางเข้ารับตำแหน่ง เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบในเรือนจำ และเรียกประชุมเจ้าหน้าที่เรือนจำ เน้นย้ำเรื่องการตรวจสแบแก๊งขว้างโทรศัพท์มือถือเข้าเรือนจำ หากพบผู้คุมคนใดเกี่ยวข้อง จะดำเนินการทางวินัย และแจ้งความดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น
หลังจากมอบนโยบายไม่นาน เจ้าหน้าที่เรือนจำตรวจพบโทรศัพท์มือถือ 39 เครื่อง อุปกรณ์ครบครัน ซุกซ่อนอยู่ใต้กองวัสดุก่อสร้าง และซุกอยู่ในก้อนอิฐ โดยซุกซ่อนมากับรถกระบะ เนื่องจากภายในเรือนจำกำลังมีการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ จึงมีคนพยายามลักลอบนำโทรศัพท์มือถือชุดใหม่เข้ามาให้กับผู้ต้องขัง ผู้บัญชาการเรือนจำจึงสั่งตรวจเข้มบุคคลเข้าออก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ไม่เว้นแม้แต่ ผบ.เอง ให้ตรวจค้นอย่างละเอียด
ส่วนการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ก่อนหน้านี้ ปรากฏว่า มีผู้ต้องขังขาใหญ่ มีพฤติกรรมสั่งยาเสพติดนอกเรือนจำ เมื่อรวบรวมข้อมูลแล้วปรากฏว่า มีผู้ต้องขังเกี่ยวข้อง ประมาณ 40 คน กรมราชทัณฑ์สั่งย้ายไปควบคุมตัวที่เรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี
นอกจากนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบโทรศัพท์ ปรากฏว่ามีคนโทรเข้า เจ้าหน้าที่รับทำทีเป็นเจ้าของโทรศัพท์ มีการถามถึงความเป็นอยู่ทั่วไปของเจ้าของเครื่อง และสอบถามถึงการส่งยาเสพติด แต่เมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ปลายสายจึงวางหู
หลังจากมอบนโยบายไม่นาน เจ้าหน้าที่เรือนจำตรวจพบโทรศัพท์มือถือ 39 เครื่อง อุปกรณ์ครบครัน ซุกซ่อนอยู่ใต้กองวัสดุก่อสร้าง และซุกอยู่ในก้อนอิฐ โดยซุกซ่อนมากับรถกระบะ เนื่องจากภายในเรือนจำกำลังมีการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ จึงมีคนพยายามลักลอบนำโทรศัพท์มือถือชุดใหม่เข้ามาให้กับผู้ต้องขัง ผู้บัญชาการเรือนจำจึงสั่งตรวจเข้มบุคคลเข้าออก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ไม่เว้นแม้แต่ ผบ.เอง ให้ตรวจค้นอย่างละเอียด
ส่วนการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือที่ยึดได้ก่อนหน้านี้ ปรากฏว่า มีผู้ต้องขังขาใหญ่ มีพฤติกรรมสั่งยาเสพติดนอกเรือนจำ เมื่อรวบรวมข้อมูลแล้วปรากฏว่า มีผู้ต้องขังเกี่ยวข้อง ประมาณ 40 คน กรมราชทัณฑ์สั่งย้ายไปควบคุมตัวที่เรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี
นอกจากนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบโทรศัพท์ ปรากฏว่ามีคนโทรเข้า เจ้าหน้าที่รับทำทีเป็นเจ้าของโทรศัพท์ มีการถามถึงความเป็นอยู่ทั่วไปของเจ้าของเครื่อง และสอบถามถึงการส่งยาเสพติด แต่เมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ปลายสายจึงวางหู