เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง "เสียงสะท้อนของสาธารณชนต่อเรื่องความปรองดองของคนในชาติ จริยธรรมการเมือง และเรื่องที่ประชาชนจัดอันดับความสำคัญอยากให้ทุกฝ่ายนำเป็นวาระแห่งชาติ" โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 49.8 คิดว่าการที่นายกรัฐมนตรีและคณะ รดน้ำดำหัว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สามารถสร้างความปรองดองได้ดีกว่าการออกกฎหมายปรองดองและนิรโทษกรรม
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีประชาชนถึงร้อยละ 73.1 เชื่อว่ามีกลุ่มคน/ขบวนการ จ้องขัดขวางความปรองดองของคนในชาติ
ส่วนเรื่องจริยธรรมทางการเมือง กรณีที่ ส.ส.กดบัตรโหวตแทนกันในการประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.8 เห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรม โดยร้อยละ 44.3 เสนอให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้กดบัตรแทนกันอีก
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.5 อยากให้เรื่องค่าครองชีพ ปัญหาปากท้อง เป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่ร้อยละ 67.1 ระบุ เรื่องความปรองดอง
อย่างไรก็ตาม ประชาชนมีประชาชนถึงร้อยละ 73.1 เชื่อว่ามีกลุ่มคน/ขบวนการ จ้องขัดขวางความปรองดองของคนในชาติ
ส่วนเรื่องจริยธรรมทางการเมือง กรณีที่ ส.ส.กดบัตรโหวตแทนกันในการประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 76.8 เห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดจริยธรรม โดยร้อยละ 44.3 เสนอให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้กดบัตรแทนกันอีก
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.5 อยากให้เรื่องค่าครองชีพ ปัญหาปากท้อง เป็นวาระแห่งชาติ ขณะที่ร้อยละ 67.1 ระบุ เรื่องความปรองดอง