นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวการจับกุมแก๊งแชร์ลูกโซ่ ที่หลอกลวงประชาชนในพื้นที่ จ.นครปฐม และกรุงเทพฯ ให้ร่วมลงทุนในการประมูลซื้อเพชรที่ไม่มีอยู่จริงมูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่จับกุมนายช่วงโชติ และนางธนลักษณ์ หรือ วงพลอย อัครปัญญาวัฒน์ 2 สามี-ภรรยา ที่ร่วมกับนางศรีวรินทร์ พูนธนารมย์ หรือ นางศันสนีย์ วนิชกีรติ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี หลอกลวงผู้เสียหายรวม 17 คนให้ร่วมธุรกิจประมูลซื้อเพชร
โดยนางศรีวรินทร์ อ้างตัวเป็นเจ้าของร้านเพชร และคณะกรรมการประมูลเพชรแห่งชาติ ซึ่งไม่มีอยู่จริง ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน ให้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 10 ต่อเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2553 ถึง 6 มกราคม 2555 โดยในช่วงแรกผู้ต้องหาสามารถหาเงินมาจ่ายผลตอบแทนได้ต่อเนื่องทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและนำเงินมาลงทุนต่อเป็นจำนวนมาก กระทั่งต้นปีที่ผ่านมานางศรีวรินทร์ ได้หลบหนีไป
เบื้องต้น นายช่วงโชติ และนางธนลักษณ์ สองผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าเป็น หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกนางศรีวรินทร์ ซึ่งเป็นหลาน หลอกลวงเช่นกัน
ทั้งนี้ นายธาริต กล่าวเตือนประชาชนให้ระมัดวัง ในเรื่องของการลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งปัจจุบัน มีการเปลี่ยนตัวสินค้าไปเรื่อยๆ โดยให้ระมัดระวังการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นกับดัก และทำให้เกิดความเสียหายได้
โดยนางศรีวรินทร์ อ้างตัวเป็นเจ้าของร้านเพชร และคณะกรรมการประมูลเพชรแห่งชาติ ซึ่งไม่มีอยู่จริง ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน ให้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 10 ต่อเดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2553 ถึง 6 มกราคม 2555 โดยในช่วงแรกผู้ต้องหาสามารถหาเงินมาจ่ายผลตอบแทนได้ต่อเนื่องทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและนำเงินมาลงทุนต่อเป็นจำนวนมาก กระทั่งต้นปีที่ผ่านมานางศรีวรินทร์ ได้หลบหนีไป
เบื้องต้น นายช่วงโชติ และนางธนลักษณ์ สองผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าเป็น หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกนางศรีวรินทร์ ซึ่งเป็นหลาน หลอกลวงเช่นกัน
ทั้งนี้ นายธาริต กล่าวเตือนประชาชนให้ระมัดวัง ในเรื่องของการลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งปัจจุบัน มีการเปลี่ยนตัวสินค้าไปเรื่อยๆ โดยให้ระมัดระวังการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นกับดัก และทำให้เกิดความเสียหายได้