พ.ต.ท.ปฐม นาคะเสงี่ยม พนักงานสอบสวนสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ลงพื้นที่สอบปากคำ นายดำรงเกียรติ ตั้งเจริญ หัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อตรวจสอบกรณียาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีนหายไปจากโรงพยาบาลกว่า 7.2 ล้านเม็ดอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ส่งมอบสำนวนการสอบสวนให้กับดีเอสไอไปแล้วก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ยังมีบางประเด็นที่ต้องสอบสวนอย่างละเอียด โดยเฉพาะประเด็นการปลอมแปลงเอกสารของโรงพยาบาลเพื่อเบิกจ่ายยา รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่เบิกจ่ายยา เพื่อหาความเชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติด ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะลงพื้นที่สอบปากคำเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อหาข้อมูลการหายไปของยา
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รักษาการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ กรมสองสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ วงศ์สวัสดิ์ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อสอบปากคำ นางพิชญ์สินี ประเสริฐศรี พนักงานห้องคลังยา โรงพยาบาลเช็นทรัลเชียงใหม่เมโมเรียล รวมทั้ง น.ส.ศุภรดา ทองเที่ยง และ นางมยุรี หลวงเครื่อง ผู้แทนบริษัทยา ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันมียาซูโดอีเฟดรีนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ของโรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่เมโมเรียลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนกว่า 3 แสนเม็ด การสอบสวนครั้งนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลในกระบวนการสั่งซื้อยา ที่มีโรงพยาบาลหลายแห่งมีชื่อเกี่ยวข้อง รวมทั้งติดตามเส้นทางยาซูโดอีเฟดรีน ที่หายไปจากระบบ
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ยังมีบางประเด็นที่ต้องสอบสวนอย่างละเอียด โดยเฉพาะประเด็นการปลอมแปลงเอกสารของโรงพยาบาลเพื่อเบิกจ่ายยา รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่เบิกจ่ายยา เพื่อหาความเชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติด ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะลงพื้นที่สอบปากคำเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อหาข้อมูลการหายไปของยา
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รักษาการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษ กรมสองสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ วงศ์สวัสดิ์ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อสอบปากคำ นางพิชญ์สินี ประเสริฐศรี พนักงานห้องคลังยา โรงพยาบาลเช็นทรัลเชียงใหม่เมโมเรียล รวมทั้ง น.ส.ศุภรดา ทองเที่ยง และ นางมยุรี หลวงเครื่อง ผู้แทนบริษัทยา ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันมียาซูโดอีเฟดรีนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารปลอม ของโรงพยาบาลเซ็นทรัลเชียงใหม่เมโมเรียลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนกว่า 3 แสนเม็ด การสอบสวนครั้งนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลในกระบวนการสั่งซื้อยา ที่มีโรงพยาบาลหลายแห่งมีชื่อเกี่ยวข้อง รวมทั้งติดตามเส้นทางยาซูโดอีเฟดรีน ที่หายไปจากระบบ
