นายประจวบ ตยาคีพิสุทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย เปิดเผยว่า สมาคมไม่สามารถกำหนด หรือชี้นำให้บริษัทซึ่งเป็นผู้ประกอบการเครื่องดื่มแต่ละรายปรับขึ้นราคาขายสินค้าได้ และไม่เคยมีการหารือร่วมกันในเรื่องดังกล่าวตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเพิ่มสูงขึ้นมาก ทั้งจากราคาวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ ค่าเชื้อเพลิง รวมถึงค่าแรง ซึ่งผู้ผลิตแต่ละรายได้รับผลกระทบ และมีการบริหารจัดการต้นทุนที่แตกต่างกัน รวมถึงปัจจัยที่จะกำหนดการปรับขึ้นราคาสินค้า ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ และความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งเป็นความลับทางธุรกิจ
นายประจวบ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านสมาคมพยายามประสานงานไปยังภาครัฐ เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขอให้ทบทวนมาตรการเพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบการ เช่น ลดอัตราการจัดเก็บเงินอุดหนุนเข้ากองทุนอ้อย และน้ำตาลที่สูงถึงกิโลกรัมละ 5 บาท แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของสมาชิกแต่ละรายที่จะพิจารณาปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเพิ่มสูงขึ้นมาก ทั้งจากราคาวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ ค่าเชื้อเพลิง รวมถึงค่าแรง ซึ่งผู้ผลิตแต่ละรายได้รับผลกระทบ และมีการบริหารจัดการต้นทุนที่แตกต่างกัน รวมถึงปัจจัยที่จะกำหนดการปรับขึ้นราคาสินค้า ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ และความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งเป็นความลับทางธุรกิจ
นายประจวบ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านสมาคมพยายามประสานงานไปยังภาครัฐ เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขอให้ทบทวนมาตรการเพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบการ เช่น ลดอัตราการจัดเก็บเงินอุดหนุนเข้ากองทุนอ้อย และน้ำตาลที่สูงถึงกิโลกรัมละ 5 บาท แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของสมาชิกแต่ละรายที่จะพิจารณาปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป