เจ้าหน้าที่ปรับแผนรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณอาคารลีการ์เด้นส์พลาซ่า หลังเกิดเหตุระเบิดวานนี้ โดยได้จัดการเดินรถเป็นทางเดียว พร้อมติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด รวมถึงขอความร่วมมือจากเจ้าของโรงแรม และสถานประกอบการทุกแห่ง ให้ตรวจสอบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ก่อนจะนำรถมาจอด เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงซ้ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาในช่วงสงกรานต์
ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายจากเหตุระเบิดรถยนต์ 2 จุด บน ถ.ร่วมมิตร ในเขต อ.เมืองยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน โดยพบว่าการระเบิด 2 จุด ใน จ.ยะลา นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดรถยนต์ในอาคารลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะจากการตรวจสอบรถยนต์ซีวิค ป้ายทะเบียน กค 6734 พัทลุง ซึ่งเป็นของนายธนสร เกื้อสุข อดีตปลัด อบต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ที่ถูกยิงเสียชีวิตก่อนจะถูกขโมยรถและปืน M16 ไป เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ปีที่ผ่านมา
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดในรถจักรยานยนต์ ที่หน้าร้านขายข้าวแกงใน อ.แม่ลาน ล่าสุด นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงซ้ำ โดยเฉพาะในโรงแรม ห้องอาหาร และสถานบันเทิง รวมถึงตรวจค้นรถที่อาจจะนำแผ่นป้ายทะเบียนปลอม หรือรถยนต์ที่ขโมยมาเพื่อใช้ก่อเหตุ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 10 คัน
ขณะที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ในหมู่ 5 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สามารถยึดปืนพกสั้น 2 กระบอก ปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก กระสุนปืนพกสั้นขนาด .38 ขนาด .357 ขนาด .22 รวม 89 นัด อุปกรณ์ประกอบระเบิด และอุปกรณ์ผลิตยาเสพติด พร้อมควบคุมตัวเจ้าของบ้าน 3 หลัง คือ น.ส.ซูวาดา ซีติง นายตาฮา มามะ และ น.ส.กีซะ ซีติง ไปสอบสวนขยายผล
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน ที่อาคารลีการ์เด้นส์ พลาซ่า ยืนยันว่า สาเหตุที่มีอานุภาพความรุนแรงค่อนข้างมาก เพราะแรงระเบิดได้ไหลไปยังท่อทำความเย็น ซึ่งมีก๊าซไฮโดนเจน เป็นสารทำความเย็น เป็นตัวเร้าทำให้อานุภาพรุนแรง ไม่ใช่การนำรถยนต์ติดตั้งระเบิดไปวางไว้กับท่อแก๊สตามที่สันนิษฐานไว้ก่อนหน้านี้
ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายจากเหตุระเบิดรถยนต์ 2 จุด บน ถ.ร่วมมิตร ในเขต อ.เมืองยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน โดยพบว่าการระเบิด 2 จุด ใน จ.ยะลา นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดรถยนต์ในอาคารลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะจากการตรวจสอบรถยนต์ซีวิค ป้ายทะเบียน กค 6734 พัทลุง ซึ่งเป็นของนายธนสร เกื้อสุข อดีตปลัด อบต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ที่ถูกยิงเสียชีวิตก่อนจะถูกขโมยรถและปืน M16 ไป เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ปีที่ผ่านมา
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดในรถจักรยานยนต์ ที่หน้าร้านขายข้าวแกงใน อ.แม่ลาน ล่าสุด นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงซ้ำ โดยเฉพาะในโรงแรม ห้องอาหาร และสถานบันเทิง รวมถึงตรวจค้นรถที่อาจจะนำแผ่นป้ายทะเบียนปลอม หรือรถยนต์ที่ขโมยมาเพื่อใช้ก่อเหตุ ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 10 คัน
ขณะที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ในหมู่ 5 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สามารถยึดปืนพกสั้น 2 กระบอก ปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก กระสุนปืนพกสั้นขนาด .38 ขนาด .357 ขนาด .22 รวม 89 นัด อุปกรณ์ประกอบระเบิด และอุปกรณ์ผลิตยาเสพติด พร้อมควบคุมตัวเจ้าของบ้าน 3 หลัง คือ น.ส.ซูวาดา ซีติง นายตาฮา มามะ และ น.ส.กีซะ ซีติง ไปสอบสวนขยายผล
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน ที่อาคารลีการ์เด้นส์ พลาซ่า ยืนยันว่า สาเหตุที่มีอานุภาพความรุนแรงค่อนข้างมาก เพราะแรงระเบิดได้ไหลไปยังท่อทำความเย็น ซึ่งมีก๊าซไฮโดนเจน เป็นสารทำความเย็น เป็นตัวเร้าทำให้อานุภาพรุนแรง ไม่ใช่การนำรถยนต์ติดตั้งระเบิดไปวางไว้กับท่อแก๊สตามที่สันนิษฐานไว้ก่อนหน้านี้