นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทยถึงมาตรการแก้ไขทั้งระบบธุรกิจสุกร ว่า ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลราคาสินค้าเกษตรอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยต้องทำให้เกษตรกรอยู่ได้ และผู้บริโภคต้องได้รับความเป็นธรรม
ในส่วนของราคาเนื้อหมูขณะนี้แม้จะถูกลง แต่ราคาปลายทางยังไม่สอดคล้องกับต้นทาง เพราะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องจำหน่ายหมูเป็นในราคา 55 - 57 บาท ต่ำกว่าต้นทุนที่ราคา 62 บาท ดังนั้นกรมการค้าภายในจะเข้ามาดูแล โดยจะยังไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายหน้าเขียง ที่ปัจจุบันราคากิโลกรัมละ 110 - 115 บาท และจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าวเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ และราคาที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางให้เกิดความเป็นธรรม
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในเตรียมเสนอของบประมาณปี 2556 วงเงิน 1,500 ล้านบาท เพื่อดูแลเสถียรภาพราคาหมู ไข่ไก่ และน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับการดูแลราคาอย่างเป็นธรรม รวมทั้งเป็นการรองรับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 ด้วย
ในส่วนของราคาเนื้อหมูขณะนี้แม้จะถูกลง แต่ราคาปลายทางยังไม่สอดคล้องกับต้นทาง เพราะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องจำหน่ายหมูเป็นในราคา 55 - 57 บาท ต่ำกว่าต้นทุนที่ราคา 62 บาท ดังนั้นกรมการค้าภายในจะเข้ามาดูแล โดยจะยังไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายหน้าเขียง ที่ปัจจุบันราคากิโลกรัมละ 110 - 115 บาท และจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าวเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ และราคาที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางให้เกิดความเป็นธรรม
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในเตรียมเสนอของบประมาณปี 2556 วงเงิน 1,500 ล้านบาท เพื่อดูแลเสถียรภาพราคาหมู ไข่ไก่ และน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับการดูแลราคาอย่างเป็นธรรม รวมทั้งเป็นการรองรับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 ด้วย
