นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงภายในงานครบรอบ 14 ปี ศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับแนวทางปรองดอง ว่า จากที่เห็นสถานการณ์ในปัจจุบัน การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะผู้ที่ดำเนินการเรื่องการปรองดองยังยึดติดทัศนะของตนเอง โดยไม่รับฟังทัศนะของอีกฝ่าย และหากเปรียบเทียบเป็นคดีในศาลยุติธรรม การปรองดองคือการประนีประนอม ที่ทุกฝ่ายต้องผ่อนปรน ประนีประนอมให้แก่กัน ลดความต้องการของตนเองตามความต้องการของอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม การปรองดองไม่ใช่การสมยอมทางการเมือง เพราะการสมยอมต้องเอื้อประโยชน์ต่อกัน และการปรองดองต้องเป็นการลดความต้องการของตนเอง เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ทั้งนี้ ไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นแนวทางปรองดองที่ชัดเจน และไม่ควรทึกทักว่าใครคือคู่ขัดแย้ง เพราะนั่นคือเป็นความเข้าใจของผู้คิดเอง และตุลาการคงไม่เข้าไปแสดงความเห็นทางการเมือง เพราะอาจถูกกล่าวหาว่าอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้ และที่ผ่านมามีคนเข้าใจว่าตนเองเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะตนเองเคยทำงานร่วมกับ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผ่านมานานมากแล้ว
ทั้งนี้ ไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นแนวทางปรองดองที่ชัดเจน และไม่ควรทึกทักว่าใครคือคู่ขัดแย้ง เพราะนั่นคือเป็นความเข้าใจของผู้คิดเอง และตุลาการคงไม่เข้าไปแสดงความเห็นทางการเมือง เพราะอาจถูกกล่าวหาว่าอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้ และที่ผ่านมามีคนเข้าใจว่าตนเองเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะตนเองเคยทำงานร่วมกับ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผ่านมานานมากแล้ว