หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับนักธุรกิจไทย รับฟังข้อเสนอแนะและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจจากภาคธุรกิจไทยแล้ว ได้เดินทางมายังมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา หารือกับนางคิม ซอน อุก อธิการบดีมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา พร้อมกล่าวบรรยายพิเศษเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของไทย ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ว่า การเยี่ยมมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา เพื่อเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาบทบาทสตรี เพราะเป็นสถาบันที่ช่วยยกระดับสถานภาพของสตรีในสังคม โดยจะนำมาปรับใช้พัฒนาการศึกษาของสตรีไทย และขอชื่นชมการต่อสู้เรียกร้องสิทธิสตรีในสาธารณรัฐเกาหลี จนทำให้สถานภาพสตรีมีความก้าวหน้ามากที่สุดในเอเชีย ดูจากตัวเลขดัชนีชี้วัดความเท่าเทียมทางเพศของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ปี 2554 จัดอันดับให้อยู่ที่ 11 ของโลก เป็นบทพิสูจน์ของพลังสตรีในการช่วยพัฒนาประเทศที่ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะมีบทบาทไม่น้อยไปกว่าผู้ชายในการทำงาน และสร้างความเจริญให้ประเทศ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถานภาพของสตรีประเทศไทย ว่า ผู้หญิงไทยมีสถานภาพไม่ต่างจากผู้หญิงเอเชียทั่วไป หรือสาธารณรัฐเกาหลี ขณะที่ตนเองมายืนในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ ต้องใช้ความพยายามและพิสูจน์ตนเองให้เกิดการยอมรับจากสังคม โดยตนเองพร้อมผลักดันการสร้างโอกาสให้กับสตรีทุกคนที่อยู่ในทุกวงการของไทย สร้างสถานภาพทางเศรษฐกิจที่มั่นคง เนื่องจากปัจจุบันไทยมีรัฐธรรมนูญที่ประกันสิทธิของหญิงไทยอย่างเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงสถานภาพของสตรีประเทศไทย ว่า ผู้หญิงไทยมีสถานภาพไม่ต่างจากผู้หญิงเอเชียทั่วไป หรือสาธารณรัฐเกาหลี ขณะที่ตนเองมายืนในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ ต้องใช้ความพยายามและพิสูจน์ตนเองให้เกิดการยอมรับจากสังคม โดยตนเองพร้อมผลักดันการสร้างโอกาสให้กับสตรีทุกคนที่อยู่ในทุกวงการของไทย สร้างสถานภาพทางเศรษฐกิจที่มั่นคง เนื่องจากปัจจุบันไทยมีรัฐธรรมนูญที่ประกันสิทธิของหญิงไทยอย่างเท่าเทียมกัน
